วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

ตอนตาย (ฟรี) ปริศนาที่ DSI(S)

DSI ระบบยุติธรรมเชื่อได้จริงหรือไม่

ถูกผู้อื่นทำให้ตาย แต่ไม่ใช่การฆาตกรรม
มันแปลว่าอะไรครับ แสนดีงง
.......................

          เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 กันยายน พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง"ผลสอบปากคำ ผู้การนิติเวช ปมเสียชีวิตธวัชชัย ชี้ อาจจะถูกผู้อื่นทำให้ตาย ย้ำชัด!ไม่ใช่การฆาตกรรม
คลิป goo.gl/R0Gnxo
ข่าว https://goo.gl/q3Y0zY 

  งงครับ ใครช่วยแปลไทยเป็นไทยให้ที !!!  

          แสนดีเลยสงสัยครับสงสัยว่ามีใครสักคนเขียน Death Note แน่ๆ ( Death Note คือสมุดจดของยมทูต เมื่อเขียนรายชื่อของครลงไป จะทำให้คนที่ถูกเขียนชื่อนั้นตายตามที่เขียนครับ ลองไปหาอ่านเพิ่มได้)

          โดยเขียนว่าผู้ตายนายธวัชชัย อนุกูล จะตายในวันที่ 30 ส.ค. 2559 เนื่องจากแอร์ในห้องจะเสียทำให้อากาศร้อนจนตับแตก แล้วเป็นลมกะทันหัน ล้มลงถุงเท้าบังเอิญหลุดมาเกี่ยวคอเข้ากับบานพับได้พอดีจนผูกคอตาย


555555
ไหนๆก็มาขนาดนี้แล้วนะครับ

บอกเวลาไม่ตรงกัน

บอกอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ตรงกัน

ผูกคอแต่ตับแตกได้

ปั๊มหัวใจแต่ตับแตกได้

ถุงเท้าแขวนคอบนบานพับมนๆ  

รอยรัดคอขนาดเล็กเหมือนเส้นเอ็น

กล้องใช้ได้ แต่เซิฟเวอร์เสียที่ตำแหน่งนั้น และในจังหวะนั้นพอดี 

ไปถึงร.พ.x-ray ทีแรกไม่มีซี่โครงหักมาหักตอนชันสูตรศพครั้งที่2 

!! โอ๊ะ! ปวดหัว

           มาขนาดนี้ถ้าจะเขียน Death Note เพื่อให้ตายปริศนาได้ ก็ไม่แปลกแล้วครับ

 ระวังจะมีแพะโผล่มาตอนหลังได้นะครับ 


          ปล. DSI ขอเพิ่มเป็น DSIS อ่านว่า ดีซิส นะครับ มาจากอะไรน๊อ ลองทายกันมาดูนะครับ

น้องแสนดี
22 กันยายน 2559


ติดตามเพจน้องแสนดีได้ทาง
facebook ค้นคำว่า น้องแสนดี
line ที่เพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nongsaandee
twitter ค้น nongsaandee

...............



น้องแสนดี ตอนตาย (ฟรี) ปริศนาที่ DSIS
ถูกผู้อื่นทำให้ตาย แต่ไม่ใช่การฆาตกรรม
มันแปลว่าอะไรครับ แสนดีงง
.......................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook 
https://goo.gl/slgjkE

Line 
https://goo.gl/xVwDvq

Twitter 
https://goo.gl/B0P7wJ

.......................
 คลิ๊ก   ย้อนกลับไปที่สารบัญ

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

น้องแสนดีชี้แจงกรณีพระมหาโนเนม เรื่องการบูชาข้าวพระ


         เห็นพระมหาโนเนมภูมิใจที่มีคนตั้งชื่อให้ ก็ดีใจครับที่ชอบ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นอยากจะบอกว่า งานเขียนของท่านที่แสนดีตอบ ไม่ใช่เพราะมันดีเลิศจนต้องออกมาชี้แจงหรอกนะครับ แต่ที่ตอบเพราะมันมีที่ผิดหลายจุด และพาดพิงถึงคนอื่นน่ะครับ


          ตามงานของท่านดูเหมือนเป็นการ "จับแพะชนแกะ" ความถูก กลับกลายเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนไป ทำให้ผู้อ่านที่ไม่ได้เข้าใจความจริงทั้งหลายจะเข้าใจผิดตามท่านไป และ ถ้าไม่ชี้แจงบ้าง ก็จะกลายเป็นเหมือนที่ผ่านๆมา ที่เมื่อก่อนศิษย์วัดพระธรรมกายไม่ได้ตอบโต้ เพราะไม่อยากมาเสียเวลาเรื่องหมองๆ ครับ ลำพังศึกษาเรื่องดีๆ ทำความดี ก็หมดเวลาชีวิตแล้ว คิดว่าทำดีไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเขาก็เข้าใจเอง และไม่อยากฉีกหน้าคนอื่นครับ แต่ปรากฏว่าผ่านมาหลายปี เขาก็ไม่เข้าใจซักที


         ซึ่งยุคนี้เป็นยุคชี้แจงความจริงครับ อะไรที่ชี้แจงได้ก็ชี้แจงไปครับ เพราะคนที่มีปัญญาจะได้เข้าใจถูกต้อง ขอความกรุณานะครับทุกประเด็นที่สงสัยและไม่เข้าใจในวัดพระธรรมกาย กรุณาถามไถ่มาดีๆ ก็ได้ครับ..ศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคนยินดีอธิบายครับ เพราะการเข้าใจผิดมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ครับ


         แต่ถ้าท่านมหามโนเรื่องราวเอาเอง เดาเอาเอง จับแพะชนแกะเอาเอง งานเขียนของมหาก็จะอยู่ในระดับของงานเขียนทีไม่ดีครับ หรือเรียกง่ายๆว่า “มั่ว” ครับ


         ตัวอย่างอันที่แล้ว แสนดีแค่ยกตัวอย่าง แก้เรื่องของ “ธง” ซึ่งเห็นได้ชัดเจน ไม่ต้องค้นคว้า หรือตีความอะไรเลย  เอามาให้ดูว่าเรื่องชัดๆ อย่างนี้ ยังมั่วได้ สาอะไรเรื่องอื่นๆ จะมั่วไม่ได้ครับ ยิ่งเรื่องอัตตาอนัตตานั่นยิ่งแล้วใหญ่ พระนิพพานเป็นสภาวธรรมระดับสูง ในระดับพระอรหันต์ที่ถึงโลกุตรธรรม ท่านมหากลับกล้าฟันธงจากเพียงแค่อ่านๆ เอาด้วยตัวอักษรเพียงอย่างเดียวเลยเหรอครับ ท่านได้สภาวะนั้นแล้วเหรอครับ


        ขนาดของเห็นชัดๆ สัมผัสได้อย่างธงที่ไม่ต้องตีความอะไรเลย มหายังวินิจฉัยผิด แล้วเรื่องอื่นที่สัมผัสไม่ได้มองไม่เห็นและเป็นสภาวธรรมที่สูงล่ะครับ เหมือนคนตาบอดมาอธิบายเรื่องดวงอาทิตย์ให้คนตาบอดฟัง ฉันนั้น


         ในเบื้องต้น น้องแสนดีไม่อยากทำให้มหาต้องเสียหน้านะครับ เพราะคิดว่าทุกคนก็ทำผิดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา 

          ซึ่งถ้ามหาอยากจะให้งานเขียนของตัวเองมีคุณภาพมากขึ้น กรุณาอย่านั่งเทียนครับ ยิ่งถ้าเขียนถึงบุคคลที่สาม กรุณามาถามบุคคลที่สามก่อน ว่าเขาเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ไม่ใช่เดาๆเอา แล้วไปเขียนเอาไปพิมพ์แจกชาวบ้าน มันใช่สิ่งที่ดีที่ผู้เป็นบัณฑิตเขาพึงทำเหรอครับ ดังข้อพึงพิจารณาของบรรพชิต 10 ข้อในข้อสุดท้ายที่ว่า คุณวิเศษที่เราบรรลุแล้วมีอยู่หรือไม่ ที่จะทำให้เราเป็นผู้ไม่เก้อเขิน เมื่อถูกเพื่อนบรรพชิตถามในกาลภายหลัง


           ดังนั้นน้องแสนดีขอแนะนำให้ท่านอย่าเป็นปริยัติงูพิษเลยครับ ขอให้ท่านไปทำปฏิเวธให้แจ้งก่อน แล้วค่อยมาเพ่งโทษ โพนทะนา คนอื่นนะครับ เรามาช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาร่วมกัน ให้พุทธบุตรเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียวดีกว่าครับ ไหนๆ จะเสียเวลาทั้งทีแล้ว

          อ่อ การระดมทุน ไม่สำคัญว่าจะออกสื่อหรือไม่ แม้เพียงไปลงเทศน์กลุ่มเล็กๆ แจ้งเหตุว่าจะทำอะไร แล้วรวบรวมเงินมา นั่นก็คือการระดมทุนแล้วครับ ยิ่งแจ้งชื่อผู้รวมบุญพิมพ์ยิ่งชัดเจนครับว่าระดมทุน

..........................




น้องแสนดีตอบ ท่านมหาโนเนม " เรื่องการบูชาข้าวพระ


“ท่านมหาโนเนม " :
สำหรับศาสนพิธี “การบูชาข้าวพระ” โดยเฉพาะคำกล่าวบูชาข้าวพระพุทธประโยคนี้ “อิมํ สูปพฺยญฺชนสมฺปนฺนํ โภชนํ สอุทกํ วรํ พุทฺธสฺส ปูเชมิ : ข้าพเจ้าขอบูชาโภชนะสมบูรณ์ด้วยข้าวและกับ พร้อมน้ำใสสะอาดนี้แด่พระพุทธเจ้า” เราชาวพุทธคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะก่อนชาวพุทธจะถวายสำรับกับข้าวอาหารแด่พระสงฆ์ให้กระทำภัตกิจหรือก่อนพระสงฆ์บิณฑบาตกลับมาจะกระทำภัตกิจฉันภัตตาหารเช้าก็ยกสำรับกับข้าวน้อยๆ (ในถ้วยตะไลเล็ก ไม่พออิ่ม ทำพอเป็นพิธี มิได้มลังเมลืองยิ่งใหญ่ ภาชนะเงินทองรองรับข้าวอาหารวาววับงามจับตา) ถวายเป็นพุทธบูชา ถวายข้าวแด่พระพุทธเจ้านั่นเอง

---------------------

^^น้องแสนดีตอบ ^^
ตัวอย่าง "อสทิสทาน" นะครับ ซึ่งเป็นทานขนาดใหญ่ ซึ่งในสมัยพระพุทธเจ้าหนึ่งองค์จะมีทานขนาดนี้หนึ่งครั้ง ในสมัยพุทธกาล พระราชาถวายอาหาร แด่พระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์ 500 องค์ ใช้เงินไป 140 ล้านกหาปณะ (เฉลี่ยองค์ละ 280,000 -- 1 กหาปณะน่าคิดเป็นเงินไทยหลายบาท ) และสิ่งอื่นๆเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าอีกมากมาย เช่นเอาช้าง 500 เชือกมากั้นฉัตร https://goo.gl/RBDQQN นั่นบูชาพระพุทธเจ้าอย่างยิ่งใหญ่เลยนะครับ ถ้าใหญ่แล้วไม่ดี พระพุทธเจ้าท่านก็ต้องทรงห้ามแล้วใช่ไหมครับว่าเรามาทำน้อยๆ กันเถอะ พอเพียงๆ นะ มีน้อยก็ทำให้น้อย มีมากก็ต้องทำน้อยนะ ห้ามเยอะเดี๋ยวจะมลังเมลือง อย่างนั้นเหรอครับ ^^ ถ้ามีมหาโนเนมช่วยเอาหลักฐานมาดูด้วยนะครับ

แล้วถ้าทำมากกว่าถ้วยตะไล ก็ไม่ผิดครับ ไม่มีข้อกำหนดไว้ตรงไหนว่าต้องทำแบบไหน ขนาดเท่าไรครับ รบกวนท่านมหาช่วยค้นมาให้หน่อยนะครับ ว่าต้องเท่าถ้วยตะไลเท่านั้น ไม่อย่างนั้นผิด
หลายที่หรือหลายวัดในประเทศพม่าซึ่งก็เป็นพุทธเถรวาทเช่นกัน ก็ทำการบูชาข้าวพระด้วยปริมาณไม่น้อย ตามภาพ https://goo.gl/ESj3nJ และ https://goo.gl/QhTIBs 
วัดเหล่านี้เขาปฏิบัติแบบนี้ ก็ไม่ผิดนะครับ 

สำหรับท่านใดที่ไม่นิยมความมลังเมลือง ในพระไตรปิฎกก็จัดอัธยาศัยเข้าในแบบ “ลูขประมาณ” ก็อยู่แบบเก่าคร่ำคร่าตามอัธยาศัยอุปนิสัยที่สั่งสมกันมาข้ามชาติ ก็สามารถสร้างศรัทธาแก่สาธุชนได้เช่นกันครับ ไม่ว่ากัน แล้วแต่ท่านมหาเลยครับ 

เอาเป็นว่า เขามีมากเขาก็ทำมาก เขามีน้อยเขาก็ทำน้อย ทำแล้วสุขใจ อิ่มบุญ ไม่ได้เดือดร้อนตนเองและผู้อื่น ก็เป็นบุญแล้วครับ

//////////////////////////////////////////////////////////////////////


ท่านมหาโนเนม:
“การบูชาข้าวพระพุทธ ไม่ได้เริ่มปฏิบัติกันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล” เพราะสืบหาการบูชาข้าวพระพุทธไม่มีปรากฏในพระไตรปิฎก อย่างไรก็ตาม หากจะพิสูจน์เรื่องนี้โดยนำพระไตรปิฎกมาเป็นเครื่องชี้ผิดถูกนั้น พบว่ามีข้อความช่วงท้ายของพรหมชาลสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ 9 บอกว่า ไม่ควรบูชาข้าวพระพุทธ (เหมือนไปเซ่นสรวงวิญญาณของพระพุทธเจ้า ปรามาสดูหมิ่นทำให้พระพุทธองค์เป็นเหมือนสัมภเวสีเร่ร่อนไปเสียเปล่า) เพราะไม่มีพระวรกายรูปลักษณะให้พบเห็นแล้ว เหลือเพียงพุทธคุณ ควรน้อมระลึกถึงโดยความเป็นอตีตารมณ์ “พุทธานุสติ” เท่านั้น

-----------------------------

^^น้องแสนดีตอบ ^^
เรื่องที่ท่านมหา ยกมากล่าวอ้างในพรหมชาลสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ 9 ที่บอกว่า ไม่ควรบูชาข้าวพระพุทธ ปรากฏว่า.. หาไม่พบครับ!!   ใคร่จะขอความรู้ว่าท่านมหา สืบค้นพระไตรปิฎกเล่มไหนมาอ้างอิงครับ โปรดแนะนำ แม้คำว่าการบูชาข้าวพระ อาจไม่ได้มีปรากฏตรงตัวในพระไตรปิฎก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าอาจจะไม่มีในสมัยพุทธกาลหรือไม่ แต่ในหลังพุทธกาลก็มีแน่ๆ ครับ ดังที่มีบันทึกไว้อรรถกถา คือน่าจะเป็นสมัยหลังจากพระเจ้าอโศก คือ “พึงตั้งพระพุทธรูปที่มีพระธาตุไว้บนอาสนะในฐานะองค์ ประมุขของสงฆ์ ๒ ฝ่าย ตั้งที่วางของไว้ ถวายวัตถุทั้งหมดมีทักษิโณทก (น้ำหลั่งอุทิศถวายเป็นทักษิณาทาน) เป็นต้นแด่พระศาสดาก่อน จึงถวายแด่พระสงฆ์ ๒ ฝ่าย ทานได้ชื่อว่าถวายสงฆ์ ๒ ฝ่าย โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นองค์ประมุข ด้วยประการฉะนี้ https://goo.gl/D8DKns

และที่ว่าทำการบูชาโดยน้อมถึงท่านเพียงด้วยพทธานุสติเท่านั้นก็พอ ไม่ทราบว่าตีความตามความเข้าใจของตัวเองหรือเปล่าครับ เพราะน้องแสนดีมีหลักฐานประกอบว่าทำได้ ซึ่งแม้ไม่ใช่ข้าวโดยตรง แต่ถวายวัตถุทานต่อพระพุทธเจ้าที่แม้ปรินิพพานไปแล้วก็ได้บุญมาก โดยมีมาในมหาปรินิพพานสูตร 

เนื้อความว่า 
พึงสร้างสถูปของตถาคตไว้ที่หนทางใหญ่ ๔ แพร่ง ชนเหล่าใดจักยกขึ้นซึ่งมาลัยของหอมหรือจุณ จักอภิวาทน์ หรือจักยังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้น การกระทำเช่นนั้น จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ชนเหล่านั้นสิ้นกาลนาน ฯ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค https://goo.gl/Lzzn3l

แสดงให้เห็นชัดเลยนะครับ ว่าพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า แม้เมื่อหลังปรินิพพาน การบูชาท่านก็ยังได้ผลมาก


ท่านมหาโนเนมก็คงไม่เข้าใจว่าปรินิพพานไปแล้ว 
บูชาท่านจะได้อะไร ? 

ก็พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้เอาไปหรอกครับ 
แต่เราต่างหากที่ได้บุญ



ในพระไตรปิฎก มีอยู่มากมายที่เกี่ยวกับบุญจากการบูชาพระพุทธเจ้าแม้ปรินิพพานไปแล้ว ด้วยวัตถุทาน 

เช่น สกจิตตนิยเถราปทาน เนื้อความว่า เราได้เห็นป่าชัฏใหญ่สงัดเสียง ปราศจากอันตราย เป็นที่อยู่อาศัยของพวกฤาษี ดังกับจะรับเครื่องบูชา เราจึงเอาไม้ไผ่มาทำเป็นสถูป แล้วเกลี่ย (โปรย) ดอกไม้ต่างๆ ได้ไหว้พระสถูป ดุจถวายบังคมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งยังทรงพระชนม์อยู่เฉพาะพระพักตร์ เราได้เป็นพระราชาสมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ เป็นใหญ่ในแว่นแคว้นปรารภด้วยกรรมของตน นี้เป็นผลแห่งการบูชาด้วยดอกไม้ ในกัลปที่ ๙๑ แต่กัลปนี้ เราโปรยดอกไม้ใด ด้วยกรรมนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัลปที่ ๘๐ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มียศอนันต์สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ๔ คุณวิเศษเหล่านี้คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้วพระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน 


จะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่า บูชาแม้ปรินิพพานไปแล้ว ก็ได้บุญใหญ่ และบุญส่งผลถึงในชาติที่บรรลุธรรมเลยทีเดียว ยังมีอีกหลายพระสูตรเลยครับ

... ทั้งบูชาด้วยประทีป 
... บูชาด้วยทองคำ 
... บูชาด้วยดอกไม้ ฯลฯ 
https://goo.gl/wbJOQA และ https://goo.gl/r6lIK5


ไม่ทราบมหาโนเนมเคยอ่านเจอไหมครับ 
นี่เป็นตัวอย่างจากดอกไม้นะครับ ซึ่งข้าวก็เป็นหนึ่งในวัตถุทานเช่นกัน และยังเป็นประโยชน์ให้กับพระและสาธุชนเมื่อทำพิธีเสร็จแล้วด้วยนะครับ ก็จะได้เอาไปทานกันต่อดีไหมครับ ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งอิ่ม

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ท่านมหาโนเนม:
ถามให้คิดว่า “การบูชาข้าวพระพุทธ เราชาวพุทธปรารถนาบุญหรือไม่ จะได้บุญจริงๆ ไหม” พิจารณาคำว่า “บูชา” ก่อน ในมงคลสูตร 3 ข้อแรกแสดงไว้ว่า ไม่คบคนพาล 1 คบเฉพาะบัณฑิต 1 บูชาบุคคลผู้ควรแก่การบูชา 1 ทั้ง 3 ประการนั่นเป็นอุดมมงคล การบูชาบุคคลผู้ควรแก่การบูชาเป็นสิริมงคล มิได้เป็นบุญ เช่นเดียวกับการบูชาข้าวพระพุทธ ถวายข้าวน้ำบูชาพระพุทธเจ้าก็เป็นสิริมงคล มิได้เป็นบุญ และเมื่อเกิดเป็นมงคล ก็เกิดเป็นกุศลจิต เมื่อเกิดเป็นกุศลจิตก็เกิดการทำกุศลกรรม เมื่อเกิดการทำกุศลกรรมก็สำเร็จเป็นบุญคุณความดี เมื่อสำเร็จเป็นบุญคุณความดีก็เกิดวิบากผลที่คนทำควรได้รับ ซึ่งจะต่อเนื่องสัมพันธ์กันไปเอง มิได้สลับซับซ้อนเลย เพียงแต่ต้องกล่าวให้ถูกต้องตรงตามเหตุปัจจัยที่เป็นจริงเท่านั้น ดังนั้นคำว่า “บุญ” ในที่นี้ จึงหมายถึงผลานิสงส์ที่ตนพึงได้ตามกำลังแห่งบุญที่กระทำไว้ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ เช่น เสื้อผ้าอาภรณ์ ข้าว น้ำ เครื่องอุปโภคบริโภค ยวดยานพาหนะ ประทีปของหอมเครื่องลูบไล้

------------------------------

^^น้องแสนดีตอบ ^^
“การบูชาข้าวพระพุทธ ถวายข้าวน้ำบูชาพระพุทธเจ้าก็เป็นสิริมงคล มิได้เป็นบุญ และเมื่อเกิดเป็นมงคล ก็เกิดเป็นกุศลจิต เมื่อเกิดเป็นกุศลจิตก็เกิดการทำกุศลกรรม เมื่อเกิดการทำกุศลกรรมก็สำเร็จเป็นบุญคุณความดี”

เห็นไหมครับ ขึ้นต้นบอกไม่ใช่บุญเป็นเพียงสิริมงคล แต่ลงท้ายบอกเป็นบุญ เชื่อว่าผู้อ่าน คงเห็นข้อมูลที่ขัดแย้งกันเองของข้อความเพียงไม่กี่บรรทัดนี้ของท่านนะครับ เรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก 
และในเรื่องของการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ได้บุญและอานิสงส์มาก ดังที่ได้ยกตัวอย่างไปแล้วนะครับ

ดังนั้นผู้มีใจเลื่อมใสศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และรู้ถึงคุณค่าของบุญ จึงควรทำทั้งอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา ซึ่งวัดพระธรรมกาย ก็ทำทั้งบูชาข้าวพระ และนั่งสมาธิกลั่นใจระลึกถึงพระพุทธเจ้า จึงเป็นการทำทั้งสองอย่างครับ

เราทุกท่านที่ยังเวียนว่ายตายเกิดยังคงต้องศึกษาเรื่องราวต่างๆ อีกมากมาย อย่าว่าร้ายอย่าทะเลาะกันดีกว่าครับ แต่เอาข้อมูลดีๆ ถูกต้องมาทำความเข้าใจให้ตรงกันดีกว่า


ถ้าท่านมีตรงไหนสงสัย 
หรือไม่เข้าใจ 
กรุณามาถามพระที่เชี่ยวชาญธรรมะ
ที่วัดพระธรรมกายก่อนนะครับ 
อย่านั่งสรุปความเดาเอาเองครับ 


เพราะท่านก็คงไม่อยากให้ใครทำเช่นนี้กับท่านเช่นกัน
ขอฝากไว้ให้พิจารณาครับ

น้องแสนดี
19 กันยายน 2559
ติดตามเพจน้องแสนดีได้ทาง
facebook ค้นคำว่า น้องแสนดี
line ที่เพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nongsaandee
twitter ค้น nongsaandee

.................



น้องแสนดีตอบพระมหาโนเนม เรื่องการบูชาข้าวพระ


การบูชาข้าวพระไม่ใช่การเซ่นสรวง
การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ปรินิพพานแล้ว 
แม้ด้วยทานวัตถุ ก็มีผลมาก
วัดอื่นที่จัดพิธีบูชาข้าวพระใหญ่ก็มี 
ไม่ใช่มีเพียงวัดพระธรรมกาย

.......................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook 
https://goo.gl/LUWnEZ

Line 
https://goo.gl/ssVsg2

Twitter 
https://goo.gl/9VwAWr

.......................
 คลิ๊ก   ย้อนกลับไปที่สารบัญ

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

เรื่อง สองมาตราฐานโมเดล


น้องแสนดี เรื่อง สองมาตราฐานโมเดล


         แปลกใจไหมครับ ว่าทำไมเราถึงยอมรับความอยุติธรรมไม่ได้
น้องแสนดีเอาตัวอย่างการทดลองทางจิตวิทยามาให้ดูครับ เรื่องของความอยุติธรรม หรือความลำเอียง
https://youtu.be/j3Nt36Hovkg

         ในการทดลอง ใช้ลิงสองตัวซึ่งถูกเลี้ยงไว้ด้วยกัน แต่ให้อาหารต่างกัน อันหนึ่งเป็นองุ่นอร่อยๆ อีกอันหนึ่งเป็นแตงกวาจืดๆ
ลองสังเกตอาการของลิงดูนะครับ ว่าเมือมันได้ของที่ไม่เหมือนกัน โดยที่ไม่มีเหตุอันสมควร ผลจะเป็นอย่างไร

(ที่จริงเมื่อก่อนแสนดีเคยเห็นอันที่มันทดลองรุนแรงกว่านี้นะ เอาลิงทั้งสองตัวจับไว้ในกรงเดียวกัน แล้วมันทะเลาะกันตอนหลังด้วย)

        เห็นไหมครับ นี่ขนาดการ “ ได้ ” ของที่ต่างกัน แล้วเห็นถึงความไม่ยุติธรรม ยังเป็นแบบนี้เลย


        แล้วยิ่งถ้าเป็นการ “ลงโทษ” ( punishment) ที่ไม่ยุติธรรม ผลมันยิ่งกว่าการได้รับมากมายนักครับ 

มันก่อให้เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงได้เลยทีเดียว

นี่ขนาดเกิดกับสัตว์ ที่ไม่ได้คิดอะไรมากเท่ามนุษย์นะครับ

มาดูคำว่า อคติ กันนะครับ
อคติ แปลว่า ไม่ใช่ทางไป  ไม่ควรไป   
ในภาษาไทยหมายความถึง ความลำเอียง ความไม่ยุติธรรม ความไม่เป็นธรรม

        อคติเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ยังมีกิเลส เป็นที่มาของปัญหาในเรื่องของความยุติธรรม เป็นสาเหตุให้ความถูกใจอยู่เหนือความถูกต้อง 

         พุทธศาสนาแบ่งอคติออกเป็น 4 ประเภท ตามพื้นฐานแห่งจิตใจ คือ

1. ฉันทาคติ ความละเอียงเพราะความรักใคร่ หมายถึง การทำให้เสียความยุติธรรม เพราะอ้างเอาความรักใคร่หรือความชอบพอกัน ซึ่งมักเกิดกับตนเอง ญาติพี่น้อง และคนสนิทสนม หรือเพราะมีผลประโยชน์บางอย่างที่ได้รับ ทำให้เป็นพวกเดียวกัน เวลาตัดสินใจอะไร จึงเข้าข้างไว้ก่อน

2. โทสาคติ ความละเอียงเพราะความไม่ชอบ เกลียดชัง อิจฉาริษยา หรือโกรธ 

3. ภยาคติ ความลำเอียงเพราะความกลัว หมายถึง  เสียความยุติธรรม เพราะมีความหวาดกลัว หรือเกรงกลัวภยันตราย อาจจะมีคนปักธงให้ทำบางอย่าง ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วจะมีปัญหา หรือ ระแวง กลัวว่าเขาจะไม่อยู่ในอำนาจ จึงถือว่าไม่ใช่พวกฉัน

4. โมหาคติ ความลำเอียงเพราะความไม่รู้ เช่น รู้ข้อมูลน้อย ฟังความข้างเดียว ใช้หูข้างเดียวคิด ไม่เปิดใจฟังความจากด้านตรงข้าม (หรือที่เราชอบเรียกว่า พวกอยู่ในกะลา)   ทำให้เวลาตัดสินใจ ก็เอาเฉพาะข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนมาตัดสิน เลยทำให้ตัดสินใจผิด 
หรืออาจจะ ไม่รู้ ด้วยทิฐิมานะและสติปัญญา เพราะเมื่อคนคิดด้วยทิฐิแทนเหตุผลที่ถูกต้อง ทำให้ลำเอียงได้

        นี่คือที่มาของ 2 มาตรฐาน หรือสำหรับคนที่เอียงบ่อยๆ จะเรียกว่าไร้มาตรฐานก็ได้นะครับ เอียงจนไม่รู้ตัวว่าเอียง หรือจะทำอย่างนี้ซะอย่าง ใครจะทำไม ก็ฉันพวกคนดีออก มีอำนาจซะอย่าง 

        ซึ่งโดยหลักๆก็แบ่งได้เป็น 2 อย่าง คือ พวกฉัน และ ไม่ใช่พวกฉัน

         ถ้าคนลำเอียง ที่มีคุณธรรมน้อย ใจหยาบ และมีอำนาจ ก็จะพยายามทำลายที่ไม่ใช่พวกฉัน ด้วยการหาเรื่องทุกอย่าง เล็กน้อยแค่ไหนก็จะทำให้ผิดให้ได้  เช่นพระบางรูปแถววัดอ้อใหญ่ ก็ฟ้องมันเข้าไป เอะอะอะไรฟ้อง เพราะแบคดี ไม่กลัวอะไร บางคนก็อ้างกฎหมายมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการกำจัดฝ่ายตรงข้าม แม้เล็กน้อยแค่ไหนก็เอาผิดได้ เช่น ลวดหนามที่มีขายทั่วไปก็หาว่าเป็นยุทธภัณฑ์ได้ รับบริจาคก็หาว่ารับของโจร หาว่ายักยอกทรัพย์ ฯลฯ

          เช่นเดียวกันครับ ถ้าเป็นพวกเดียวกัน ก็ต่อให้ผิดแค่ไหน ก็จะพยายามช่วยให้ไม่ผิด ทั้งกล้องเสีย กล้องดัมมี่ เซิฟเวอร์พัง เอกสารจมน้ำ รอยผูกคอที่ไม่ใช่ถุงเท้าก็จะให้เป็นถุงเท้าให้ได้ หรือ แม้แต่บางคนต้องโทษเป็นกบฏซึ่งมีโทษประหาร ก็ทำเป็นดองเรื่องเอาไว้ นานๆ จนคนลืม หรือหมดอายุความ แต่ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ตามจิกตลอด ทุกอย่างเป็นคดีด่วนพิเศษ

         หรือบางคนบอกว่าอีกฝ่ายไปรับข้อกล่าวหาอย่างกล้าหาญ ก็แน่นอนสิครับ จะต้องไปกลัวอะไร ก็เพราะพวกฉันซะอย่าง รับข้อกล่าวหาก็เหมือนไปรับพัสดุแค่นั้นแหละ


         หรือถ้าผู้มีอำนาจกลัวว่าจะลำเอียงน่าเกลียดเกินไป ก็จะให้รับโทษบ้างเล็กๆน้อยๆ ให้คนเห็นว่า นี่ไง ลงโทษแล้ว ฉันไม่ลำเอียงนะ แต่ก็ลงโทษแบบขำๆ สบายๆ เช่นโทษกบฏแต่เอาแค่เรื่องโทษทำสนามหญ้าเสียหาย ให้ชดใช้นิดหน่อย 555

         ง่ายๆคือ ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือกำจัดฝ่ายตรงข้าม และกำจัดอย่างถูกกฎหมายเสียด้วย เพราะ “ เนียน” เนื่องจากกฎหมายและสื่อ อยู่ในมือพวกตัวเอง จะทำอะไรก็แค่อ้างกฎหมาย
ยิ่งถ้าเป็นพระ ยิ่งลำบากเลยนะครับ เพราะแค่ข้อกล่าวหา ก็สามารถจับสึกโดยอ้างว่าเพื่อสอบสวนได้แล้ว

ดูเรื่องจับสึกโมเดลเพิ่มเติมนะครับ 
http://goo.gl/tYQwwP

         โดยปกติคนเราชอบความความยุติธรรม และเกลียดความลำเอียง วิธีแก้อคติ ง่ายนิดเดียวครับ คือให้ลองคิดว่า ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา แล้วอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจ เราจะทำอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร จะชอบไหม ง่ายๆคือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา 

        ถ้าทุกคนรู้สึกว่า ไม่ยุติธรรม เลือกปฏิบัติ ตุกติก 
รับรองครับ ไม่มีทางปรองดองได้หรอกครับ
และผู้ทำก็จะมีวิบากกรรมด้วย ซึ่งก็ต้องโดนคืนกลับแน่สักวันหนึ่ง
เพราะกฎแห่งกรรม มันยุติธรรมกว่าไงครับ 

น้องแสนดี
12 กันยายน 2559

ติดตามเพจน้องแสนดีได้ทาง
facebook ค้นคำว่า น้องแสนดี
line ที่เพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nongsaandee
twitter ค้น nongsaandee
............


น้องแสนดี เรื่อง สองมาตรฐานโมเดล


ลองมาดูครับ ว่าเมือเกิดสองมาตรฐาน,ลำเอียง จะเป็นอย่างไร
การทดลองลิงสองตัว https://youtu.be/j3Nt36Hovkg

.......................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook  
http://goo.gl/9UCAIo

Line  
http://line.me/R/home/public/post?id=pif8758o&postId=1147364742510074890

Twitter https://twitter.com/nongsaandee/status/775159354097999872

.......................
 คลิ๊ก   ย้อนกลับไปที่สารบัญ

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559

108 บานพับ ตับแตก แหกตา?

      
น้องแสนดี : 108 บานพับ ตับแตก แหกตา

        ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างนะครับ เลยนานๆได้อัพเพจที แล้วก็ไม่ได้เขียนกลอนนานเลย จากที่ตามในข่าวนะครับ เรื่องการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล (ไม่ได้อยากตามเรื่องผู้เสียชีวิตนะครับ ขอให้เขาสู่สุคติ) และก็ไม่ได้อยากสืบนะครับ ว่าสาเหตุจากอะไร ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่สนใจเรื่องความพิรุธในคดีนี้เป็นหลักครับ ว่าหน่วยงานนี้น่าเชื่อถือไหม มีจรรยาบรรณในอาชีพและยุติธรรมจริงหรือไม่

        เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานที่สอบสวนคดีที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และอ้างว่ามีหลักฐานมากมาย (ซึ่งมีพิรุธเช่นกัน) แต่สังคมก็ไม่เห็นชัด เพราะคนวัดพระธรรมกายออกมาชี้แจง คนที่ไม่คิดจะเข้าใจอะไรง่ายๆ เพราะอคติมันบังปัญญาหมดแล้วก็คิดว่าเป็นการแก้ตัว ดังนั้นเมื่อเกิดคดีอื่นที่ให้มาดูกันชัดๆ ถึงความน่าเชื่อถือของระบบการสืบสวนแลระบบยุติธรรม ก็ขอเอามาให้เห็นกันนะครับ

        
ทีนี้มาดูความผิดปกติในคดีนี้กันครับ 

         จากที่เราทราบมากันอย่างต่อเนื่องนะครับ ทั้งตายในห้องขังของ DSI เองเลย ซึ่งมีแต่เจ้าหน้าที่ของ DSI ที่เข้าออกได้

         เวลาในการเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่บอกไม่ตรงกันกับหมอ การชี้แจงที่ไม่ตรงกัน 


         ทั้งเรื่องผ้าที่ผูกคอ หรือ ถุงเท้า และเรื่องกล้องที่กลับไปกลับมา ว่ามีหรือไม่มี 


         การผูกผ้ากับบานพับที่ไม่มีที่เกี่ยว


         เรื่องตับแตกที่เกิดได้อย่างไร ซึ่งบอกขัดกันกับหมอที่มาปั๊มหัวใจ ว่าอยู่คนละตำแหน่ง


         ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ไม่มีใครได้เห็นสักที ซึ่งนานมาก ล่าสุด เซิฟเวอร์พัง พังในจังหวะนี้ก็เป็นไปได้นะครับ


        บอกว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ทั้งที่หลักฐานทุกอย่างมันไม่ได้ทำให้คิดไปเช่นนั้นเลย


         และทำไมถึงตาย เป็นการฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัดตอนกันแน่ ผู้ตายอาจจะกำความลับอะไรพิเศษหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ

         แล้วเราจะเชื่อถือระบบการสืบสวน และระบบยุติธรรมได้อย่างไรครับ 


   และผู้ตายจะตายฟรีหรือเปล่า  



         ขนาดเรื่องที่เห็นชัดขนาดนี้ ซ้ำยังเกิดในอาคารหน่วยงานของตัวเอง ยังมีพิรุธขนาดนี้ หลักฐานยังเป็นแบบนี้ 


แล้วเรื่องคดีต่างๆ ที่เอามาฟ้องหลวงพ่อ 

หลักฐานต่างๆที่รวบรวมมา 

คิดว่าจะเชื่อถือได้แค่ไหนครับ



และหลายๆคนก็บอกว่าไปพิสูจน์สิ 
ถ้าไม่ผิดจะกลัวอะไร


         คิดว่าน่ากลัวไหมล่ะครับ อยู่ในห้องขังเดี่ยวยังตายได้ และอาจถูกทำให้เป็นฆ่าตัวตายเสียด้วย ถ้าเป็นญาติเรา เราจะให้ไปไหมครับ ถ้าอาจจะเจอแบบนี้ ลองถามใจตัวเองดู

น้องแสนดี
9 กันยายน 2559

ติดตามเพจน้องแสนดีได้ทาง
facebook ค้นคำว่า น้องแสนดี
line ที่เพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nongsaandee
twitter ค้น nongsaandee

.................... 

น้องแสนดี : 108 บานพับ ตับแตก แหกตา


108 บานพับ ตับแตก แหกตา?

ขังเดี่ยวยังตาย  ดูคล้ายแขวนคอ
ถุงเท้าแค่ข้อ รัดคอจริงไหม  

ผูกกับบานพับ  ตับแตกได้ไง
ทำได้อย่างไร ใครช่วยตอบที

รอยรัดเล็กเรียบ บางเฉียบเนี๊ยบดี
ร่องรอยบ่งชี้ี ที่น่าสงสัย

หลอกว่าเป็นลม นั่งล้มลงไป
หมอปั๊มหัวใจ ไม่บอกผูกคอ

ญาติขอดูกล้อง ขัดข้องต้องรอ
บังเอิญจริงหนอ ภาพก็เสียหาย

ขัดแย้งหลายจุด พิรุธมากมาย
ถ้าฆ่าตัวตาย ผู้ร้ายไม่มี

แต่กับผู้อื่น หยิบยื่นคดี
หลักฐานมากมี เร่งรี่เร็วไว

มาตรฐานนี้ ที่หน่วยงานใด
น่าเชื่อถือไหม  ดูไม่ยากเลย

น้องแสนดี
9 กันยายน 2559

..........................
Cr.น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook  
http://goo.gl/ldZKqW

Line 
http://line.me/R/home/public/post?id=pif8758o&postId=1147337901410075288

Twitter https://twitter.com/nongsaandee/status/774034499357188096

..........................
 คลิ๊ก   ย้อนกลับไปที่สารบัญ

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2559

ตอน “กล้องล่องหน” การตายปริศนาที่ DSI




น้องแสนดี ตอน  “กล้องล่องหน” การตายปริศนาที่ DSI 




วิเคราะห์เรื่องกล้องนะครับ 

         จากวันที่เสียชีวิต คือ 30 ส.ค. 59 จนถึงวันนี้ 7 ก.ย. 59 ยังไม่มีใครเห็นภาพจากกล้องเลยนะครับ ไม่ว่าจากทางเดินหน้าห้องหรือจากไหนก็ตาม

          ทั้งเจ้าหน้าที่ก็บอกไม่ตรงกัน บิ๊กต๊อกบอกไม่มีกล้อง แต่เจ้าหน้าที่บอกมีกล้อง และข่าวในอดีตตอนที่เปิดตัวใหม่ๆก็บอกมีกล้อง สรุปแล้วใครโกหกครับ 


สุดท้ายผ่านไป 8 วัน ออกมาแจ้งครับ 
ว่าเซิฟเวอร์เสีย ภาพหายหมด โอ้โห!!! 

เรื่องขนาดนี้ยังดูมีเงื่อนงำ แล้วเรื่องอื่นๆ จะเชื่อได้ไหมครับ

.......................

         พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รมต.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ ว่าไม่มีกล้องในห้องขัง เพราะความเป็นส่วนตัวของผู้ต้องหา  1 ก.ย. 2559
http://goo.gl/PxfZxB

         การให้สัมภาษณ์ ของนายชยพล หวานชะเอม หัวหน้างานควบคุมผู้ต้องหา กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ก่อนเข้าให้ปากคำกับ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล ทุ่งสองห้อง เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล โดยบอกว่า ภายในห้องควบคุมตัว มีกล้องวงจรปิด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกล้องชนิดใดและประเภทไหน เนื่องจากไม่ได้มีหน้าที่ รับผิดชอบในส่วนของกล้องดังกล่าว แต่หลังจากเข้าให้การกับ พนักกงานสอบสวนแล้ว  นายชยพล กลับออกมาบอกว่า  ที่ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ไม่ขอตอบเรื่องกล้องวงจรปิดอีก 
http://goo.gl/U755nd

         ตอนเปิดตัวห้องขัง ปี 2552 ว่าเพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้ต้องหา เพราะถือว่ายังไม่ใช่ผู้ร้าย ต้องให้ความสะดวก ตามสมควร จึงมีทั้งแอร์ ที่นอน กระจกกันกระสุน และกล้องวงจรปิด คนเข้าออกก็มีระบบแสกน เพื่อความปลอดภัย
http://goo.gl/k7Vvx2



ก็ไม่ทราบนะครับ ว่าใครโกหกกันแน่
แต่จากสามัญสำนึก ก็น่าจะมีกล้องอยู่นะครับ 
และที่แน่ๆ กล้องหน้าทางเดินน่ะมีแน่นอนครับ 
แต่ก็ไม่ได้เห็นเอาภาพมาแสดงสักที 
ทั้งที่ ณ เวลานี้คือ 8 วันแล้ว


แต่เขาออกมาชี้แจงว่า มีกล้องจำนวนมาก !!!!!!!
https://www.thaich8.com/news_detail/11875

         อ้าว แล้วก็เอาเฉพาะ วันเวลานั้นสิครับ เอาเฉพาะกล้องแถวๆนั้น มันจะมีสักกี่ตัวเชียว ซึ่งถ้าบริสุทธิ์ใจจริงๆ น่าจะเอาออกมาให้ดูได้ตั้งแต่วันแรกเลยนะครับ 

ทำอะไรกับภาพอยู่หรือเปล่าครับ ตัดต่อและเรนเดอร์นานไปไหมครับ

จนท.พูดไม่ตรงกัน เซิฟเวอร์เจ๊ง
http://www.thairath.co.th/content/714883


        เอ่อม จะบอกว่าคาดไว้แล้วก็ได้นะครับ แต่ไม่คิดว่าจะทำจริงๆ
ระบบกล้อง และ เซิฟเวอร์ เสียได้จังหวะดีนะครับ
แต่เจ้าหน้าที่ก็บอกต่อนะครับว่า สามารถกู้ระบบได้ แต่ต้องใช้เวลา
รวมแล้วใช้เวลานานจังครับ มีเวลาทำอะไรอีกเยอะเลย

      ถ้าได้ภาพมา จะเชื่อถือได้ไหมครับ ว่าภาพนั้น “จริง” ไม่ได้ตัดต่อ หรือถ่ายทำใหม่ พูดไม่ออกเลยครับกับเหตุผลนี้

น่าเชื่อถือไหมครับ หน่วยสืบสวนพิเศษของเรา
ถ้าสิ่งนี้จะเกิดกับครอบครัวของเรา
เราจะเชื่อไหมครับ ถ้าเขามาบอกว่า จะให้ความยุติธรรมกับเราได้

น้องแสนดี
7 กันยายน 2559
ติดตามเพจน้องแสนดีได้ทาง
facebook ค้นคำว่า น้องแสนดี
line ที่เพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nongsaandee
twitter ค้น nongsaandee

.......................


น้องแสนดี ตอน  “กล้องล่องหน” การตายปริศนาที่ DSI 
การพูดที่ไม่ตรงกันของเจ้าหน้าที่
และ 8 วันผ่านไป เซิฟเวอร์เจ๊ง ภาพหายหมด

.......................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง
Facebook 
 http://goo.gl/LojphI

Line  
http://line.me/R/home/public/post?id=pif8758o&postId=1147323853810079230

Twitter https://twitter.com/nongsaandee/status/773445305840832512

.......................
 คลิ๊ก   ย้อนกลับไปที่สารบัญ

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559

รอยรัดคอ การตายปริศนาที่ DSI




น้องแสนดี ตอน  รอยรัดคอ การตายปริศนาที่ DSI 



ขอวิเคราะห์แค่จากรอยที่คอนะครับ 
มีอีกหลายประเด็นครับ

         ช่วงนี้เหมือนเป็นนักสืบจากศพเลยนะครับ คือยิ่งสืบยิ่งไม่เชื่อถือและจับพิรุธ DSI ขึ้นไปได้เรื่อยๆ และยิ่งเป็นห่วงหลวงพ่อธัมมชโยครับว่าหลักฐานขนาดนี้ ยังโกหกได้ขนาดนี้ แล้วเรื่องที่กล่าวหาหลวงพ่อ ที่หลักฐานไม่ชัด จะโกหกได้ขนาดไหน


จากคำแถลงของดีเอสไอนะครับ
“ดีเอสไอ”แจงผลชันสูตร”อดีตที่ดินพังงา”ถุงเท้ารัดคอ  http://www.matichon.co.th/news/269606


        เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงกรณีรายงานผลการชันสูตรพลิกศพ ของแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่าชันสูตรศพนายธวัชชัย อนุกูล พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเท็จจริงที่อยากเรียนเพิ่มเติมกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัยเป็นการใช้ผ้าหรือถุงเท้านั้น จากข้อเท็จจริงที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ทราบว่าเป็นการใช้ถุงเท้านำมาต่อเป็นวงกลม ถุงเท้าดังกล่าวเป็นของนายธวัชชัย และนำไปคล้องกับบานพับของประตู ก่อนผูกคอตัวเองดังกล่าว ทั้งนี้หลังเกิดเหตุมีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้นำเตียงมายังห้องควบคุมผู้ต้องหา และช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจประมาณ 15 นาที นายธวัชชัยยังหายใจอยู่ แต่หัวใจยังไม่สามารถเต้นได้เต็มที่ จึงเร่งนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และช่วยชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจอีก45นาที และใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงเวลา 04.00 น.เศษ

นั่นคือคำแถลงนะครับ

        แต่เรามาดูหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ดีกว่า เพราะหลักฐานอันนี้มันชัดกว่าคำพูด เรื่องนี้แสนดีเห็นภาพรอยรัดคอที่เพจพิทักษ์หลวงพ่อ เลยเอามาขยายผลนะครับ คลิป  http://goo.gl/pm8lXp ถ้าดูจากแค่รอยที่คอ  เป็นรอยรัดที่ไม่มีทางเป็นถุงเท้าตามที่ DSI แถลงแน่นอน เพราะ ถ้าเป็นถุงเท้า รอยต้องเป็นรอยผ้า ซึ่งรอยใหญ่กว่าเชือกหรือลวด ถุงเท้ามีปมมัดที่ปลายทั้งสองข้าง แสดงว่าที่คอจะต้องมีรอยกดทับจากปมด้วย เพราะถุงเท้าสั้นมาก และสั้นขนาดจะมัดคอตัวเองยังแทบไม่รอบ จะไปมัดกับบานพับได้อย่างไร


        ในคำแถลง ยังบอกด้วยว่า เอาหัวลอดไป เพื่อแขวนคอ อันนี้ยิ่งชัดเลยครับ ว่าถ้าเอาหัวลอดไปได้ จะต้องมีพื้นที่เหลือนิดหน่อย เพราะหัวใหญ่กว่าคอ ด้วยน้ำหนักตัวแล้ว จะทำให้ที่รอยเริ่มจากคอติดกับคางเหนือลูกกระเดือกเฉียงขึ้นจากไปทางท้ายทอย  
สรุปคือ ถ้าเป็นรอยถุงเท้า ต้องใหญ่ เฉียง และมีปมมัด ดูจากภาพซึ่งไม่ใช่ถุงเท้าแน่นอน

ทีนี้ก็มาดูว่าฆ่าตัวตายหรือมีคนช่วยฆ่า


       ปกติคนที่ฆ่าตัวตาย จะมีการดิ้นตอนที่ยังไม่ตาย หรือมีร่องรอยแห่งการลังเล เพราะยังไม่ตาย แต่รอยที่คอนี้ ลึกและรอยเรียบมาก แสดงว่าต้องนิ่งมาก คือหมดสติก่อนแล้วแน่นอน แล้วคนหมดสติจะไปแขวนคอตัวเองได้ยังไง คิดต่อกันเอาเองนะครับ ว่าฆ่าตัวตายเองหรือเปล่า นี่ยังไม่ได้เอาประเด็นเรื่องตับแตก และเอาไปแขวนกับบานพับได้อย่างไรนะครับ


ขนาดอยู่ในคุกในอาคารของดีเอสไอเองนะครับ 
ถ้าเป็นที่อื่นจะขนาดไหน


แล้วอย่างนี้จะให้เราเชื่อดีเอสไอ และระบบยุติธรรมจริงเหรอ  ?
..............................

เราไม่ยอมให้หลวงพ่อธัมมชโย อยู่ในมือของดีเอสไอแน่ๆ
เดี๋ยวจะเอาเรื่องอื่นมาวิเคราะห์ต่อ จากข้อมูลเท่าที่มีนะครับ

น้องแสนดี
3 กันยายน 2559
ติดตามเพจน้องแสนดีได้ทาง
facebook ค้นคำว่า น้องแสนดี
line ที่เพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nongsaandee
twitter ค้น nongsaandee

..............................




น้องแสนดี ตอน  “รอยรัดคอ” การตายปริศนาที่ DSI 



รอยรัดคอขนาดเล็ก ลึก เรียบ จะเป็นถุงเท้าตามที่ DSI บอกหรือไม่ และเป็นการฆ่าตัวตายจริงหรือ?


...............................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook
http://goo.gl/xGFXb4

Line 
http://line.me/R/home/public/post?id=pif8758o&postId=1147286910010071771

Twitter https://twitter.com/nongsaandee/status/771895523242483712

...............................
 คลิ๊ก   ย้อนกลับไปที่สารบัญ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

Timeline of a mysterious death at DSI


Timeline จากการตายปริศนาใน DSI


         สืบเนื่องจากมีคนมาแย้งครับ ว่าญาติเลื่อนเผาไม่มีกำหนดแล้ว (แต่คนแย้งไม่ได้ดูเรื่องช่วงเวลาเลย ว่าญาติแจ้งคนละช่วงกัน) 
แสนดีก็เลยทำรายละเอียดเวลาออกมาให้ดูนะครับ ซึ่งเจอจุดที่น่าสนใจเยอะเลย ขอตัดบางประเด็นสำคัญ มาสรุปให้ลงในภาพเดียวนะครับ (ยากมากทีเดียว 5555)
เรื่องนี้มีเงื่อนงำเยอะ และเป็นคดีที่น่าสนใจมากครับ เพราะตายในห้องขังของ DSI กันเลยทีเดียว
คำให้การก็ไม่ตรงกัน ระหว่าง DSI กับแพทย์โรงพยาบาล ลองดูจากช่วงเวลานะครับ
ลองมาดูกันนะครับ ว่ามีจุดที่น่าสงสัยอะไรบ้าง

        คำชี้แจงของ DSI  http://www.matichon.co.th/news/267603
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่รับตัวผู้ต้องหาไว้ควบคุมหลังการสอบสวน เมื่อเวลา 15.45 น. ของวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหามีอาการวิตกกังวล เครียด และมีอาการกระสับกระส่าย เจ้าหน้าที่ได้นำอาหารให้รับประทาน แต่นายธวัชชัยรับประทานได้เพียงเล็กน้อย และเดินไปเดินมาในห้องควบคุม ก่อนจะล้มตัวลงนอน กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. นายธวัชชัยได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าแสงในห้องควบคุมสว่าง ทำให้นอนไม่หลับ จึงขอให้ปิดไฟ แต่เจ้าหน้าที่อธิบายว่า ตามระเบียบไม่สามารถปิดไฟในห้องควบคุมได้ นายธวัชชัยจึงนอนบนที่นอน โดยใช้ผ้าคลุมบริเวณหน้า และนอนตะแคง จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงเดินตรวจตราตามปกติ

        “ต่อมาเวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เดินกลับมาตรวจที่หน้าห้องควบคุมอีกครั้ง เห็นว่าผู้ต้องหานั่งหันหลังพิงประตู จึงได้เคาะประตูเรียก แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบ จึงรีบเปิดประตูเข้าไปพบว่าผู้ต้องหาได้ใช้ถุงเท้าที่ผู้ต้องหาใส่ติดตัวมาด้วยขณะถูกจับกุมาใช้ในการผูกคอตนเองกับขอบบานพับประตูห้องควบคุม แต่ยังมีลมหายใจอยู่ เจ้าหน้าที่จึงพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต และรีบนำส่งรพ.มงกุฎวัฒนะ เพื่อให้ความช่วยเหลือ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเสียชีวิตในเวลาประมาณ 04.45 น. ที่โรงพยาบาล” รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว

...........................................

         คำชี้แจงของ พลตรี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ  http://goo.gl/EKdvUA   เวลา 01.10 น. ของวันที่ 30 สิงหาคม 2559 โดยประมาณ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้รับแจ้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่ามีคนเป็นลมหมดสติ ขอให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ จัดชุดแพทย์ฉุกเฉินไปช่วยเหลือด่วน

         เวลา 01.15 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษและพบว่า นาย ธวัชชัย อนุกูล อยู่ในภาวะวิกฤตแล้วโดยต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพ ( CARDIOPULMONARY RESUSCITATION , CPR) ในทันทีจากนั้นได้รีบนำตัวไปรักษาที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ

         เวลา 01.33 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉินนำตัว นาย ธวัชชัย อนุกูล มาถึงห้องฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ แล้ว พยายามช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION , CPR) หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “ปั๊มหัวใจ” โดยต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ณ ห้องฉุกเฉิน คลื่นไฟฟ้าหัวใจของ นาย ธวัชชัย อนุกูล หยุดหลายครั้ง แต่ก็ยังพอกระตุ้นให้หัวใจกลับฟื้นคืนได้ชั่วคราวแต่อาการของนาย ธวัชชัย อนุกูล ก็ไม่ได้ฟื้นกลับคืนสภาพที่พ้นภาวะวิกฤต

        เวลา 02.40 น. ได้ย้าย นาย ธวัชชัย อนุกูล จากห้องฉุกเฉินไปยังหน่วยอภิบาลผู้วิกฤต (CRITICAL CARE UNIT) ซึ่งอาการของ นาย ธวัชชัย อนุกูล ยังคงเลวร้ายหรือวิกฤตลงอย่างต่อเนื่องจำต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION , CPR) ตลอดเวลาแต่ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้จนเสียชีวิตในเวลาประมาณ 04.45 น.

       เวลา 08.15 น.  เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิปอเต๊กตึ๊งได้มาเคลื่อนย้ายศพออกไปจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งต่อมาผมได้ทราบจากนักข่าวว่าถูกนำไปชัณสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชศาสตร์

.................................

 คำให้การของน้องชายผู้ตาย http://www.thairath.co.th/content/708859

         03.10 น. วันที่ 30 ส.ค. มีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งว่านายธวัชชัยผูกคอในห้องควบคุมของดีเอสไอ เมื่อตนเดินทางมาถึง รพ.มงกุฎวัฒนะ เวลาประมาณ 03.50 น. พี่ชายยังไม่เสียชีวิตและแพทย์ใช้เครื่องช่วยหายใจพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตแต่ไม่สำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบอกว่าผู้ตายใช้เชือกจากชายเสื้อผูกคอ แต่พิจารณาจากบาดแผลที่ลำคอพบรอยแดงขนาดเล็กมากเกือบมองไม่เห็น อาจเป็นรอยที่เกิดจากเชือกหรือลวดก็เป็นได้


         “หลังเกิดเหตุดีเอสไอออกมาแถลงข่าวพี่ชายผมใช้ถุงเท้าผูกคอตัวเอง ไม่ตรงกับตอนแรกที่แจ้งว่าใช้เชือกผูกคอ และถุงเท้าที่พี่ชายผมใส่เป็นแบบสั้นถึงแค่ตาตุ่ม ไม่น่ามีความยาวถึงขนาดใช้ผูกคอได้และบาดแผลไม่น่าจะบางเล็กจนเหมือนเชือกหรือลวด ทำให้เกิดข้อสงสัย ส่วนผลชันสูตรที่ระบุว่าเลือดออกในช่องท้องและตับแตก ขอยืนยันว่านายธวัชชัยเป็นคนสุขภาพดีออกกำลังกายเป็นประจำ วันที่ผมไปให้ปากคำในฐานะพยานยังพบผู้ตายอยู่ในอาการปกติ ไม่พูดถึงอาการป่วยหรือบาดเจ็บใดๆ การเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะเป็นการตายผิดธรรมชาติ

................................

           แล้วจะให้เราไว้ใจได้อย่างไร ขนาดอยู่ในห้องขังตัวเองแท้ๆ เพิ่งเอาไปขังไม่กี่ชม.ยังตายปริศนาคาห้องขัง และชี้แจงก็ไม่ตรงกัน มีเงื่อนงำหลายอย่างมากๆ ทั้งตับที่แตกได้อย่างไร เพราะไม่น่าจะเป็นเรื่องการปั๊มหัวในแน่นอน เพราะอยู่คนละตำแหน่ง ถุงเท้าผูกคอที่สั้นมาก บานพับที่ไม่มีที่เกี่ยวใดๆ กล้องวงจรปิดก็ไม่มี ทั้งที่จริงในห้องขังควรจะต้องมี แม้จะอ้างว่าเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ต้องหา
          คนแจ้งโรงพยาบาลตอนตี 1.10 ทั้งที่พบว่าผูกคอตายตอนตี 2 แล้วแจ้งตอน ตี1.10 ได้อย่างไร ทั้งที่ไม่มีกล้อง


         นี่แหละครับเราถึงไม่ไว้ใจ DSI เรื่องการทำคดีหลวงพ่อธัมมชโย
เพราะหากท่านเป็นอะไรไป พวกเราไม่ยอมแน่ๆครับ

         ซึ่งจริงๆก็รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร เพียงแต่พูดไม่ได้
และเขาพยายามป้ายสีวัดพระธรรมกาย ให้ดูเป็นผู้ร้ายเป็นผู้ผิด เพื่อให้เข้ามาจัดการได้อย่างเป็นฮีโร่ในสายตาของสังคมเท่านั้นเองครับ เหมือนกับเรื่องหมาป่ากินแกะ คนที่รู้ไม่ทันก็เชื่อตามข่าวไป แต่กรณีการผูกคอตายในห้องขังของ DSI นี้มันน่าสงสัยมากครับ ว่าระบบยุติธรรมนี้ ยุติธรรมจริงไหม และปลอดภัยแค่ไหน

น้องแสนดี
2 กันยายน 2559

ติดตามเพจน้องแสนดีได้ทาง
facebook ค้นคำว่า น้องแสนดี
line ที่เพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nongsaandee
twitter ค้น nongsaandee

.....................

Timeline จากการตายปริศนาใน DSI

น้องแสนดี ตอนTimeline จากการตายปริศนาใน DSI
เรื่องนี้มีเงื่อนงำเยอะมาก ทำให้ยิ่งเพิ่มความไม่เชื่อมั่นต่อ DSI 
และทำให้เรายิ่งเป็นห่วงหลวงพ่อธัมมชโยขึ้นไปอีกนะครับ

...............................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook    
http://goo.gl/scS9SD

Line 
http://line.me/R/home/public/post?id=pif8758o&postId=1147278194910070619

Twitter https://twitter.com/nongsaandee/status/771529859021406208
...............................


 อ้างอิง 
 ยันปั๊มหัวใจ ไม่ทำให้ตับแตก  
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155209478887729

"ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ"ยันปั๊มหัวใจ"ที่ดินพังงา"ตามขั้นตอน ส่วนเหตุตับแตกโยนถามแพทย์ชันสูตร
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155209054812729

ไล่สอบ"หน.ห้องขัง
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155208998772729

'นิติเวช'เก็บเนื้อเยื่อซอกเล็บ เลือด ตรวจคลี่ปมที่ดินพังงาผูกคอ ชี้1เดือนรู้ผล
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155208677377729

ผอ. รพ.มงกุฎวัฒนะแจงปั๊มหัวใจไม่ใช่เหตุให้ 'พนง.ที่ดิน ผูกคอดับ' ตับแตก จ่อแถลงเย็นนี้
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155208627387729

"ดีเอสไอ"แจงผลชันสูตร"อดีตที่ดินพังงา"ถุงเท้ารัดคอ เร่งสอบปมตับแตก-ฆ่าตัดตอน
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155205627157729

เรื่องผู้ต้องหาผูกคอตายในคุกดีเอสไอ ญาติคนตายลั่นยอมไม่ได้ เชื่อเป็นการตายผิดธรรมชาติ
https://www.facebook.com/ThairathFan/posts/10154707803307439

อธิบดีดีเอสไอ แจง ผลชันสูตรอดีตพนง.ที่ดิน ภูเก็ต-พังงา ตับแตก อาจเกิดจากช่วงช่วยชีวิต
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155205174037729

'นิติเวช'ชี้อดีตที่ดินพังงา ตับแตก ขาดอากาศตาย น้องข้องใจ รปภ.-ผู้คุม พูดขัดแย้ง ตกลงใช้อะไรผูกคอ!
https://www.facebook.com/MatichonOnline/posts/10155205062407729

สวดคืนเดียวเผา อดีตที่ดินผูกคอดับ! รอง DSI ชี้แจงกรณีตับแตก-ฆ่าตัดตอน
https://www.facebook.com/ThairathFan/posts/10154705587717439

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงกรณีพบพิรุธผลชันสูตรพลิกศพนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหา
https://www.facebook.com/ThairathFan/videos/10154705162347439/

พฐ. ตรวจห้องขังไม่พบผิดปกติ ส่วนศพอดีต จนท.ที่ดิน ไร้ร่องรอยถูกทำร้าย
https://www.facebook.com/ThairathFan/posts/10154704896112439

...............................
ย้อนกลับไปที่สารบัญ
 

blog Nongsaandee by Nongsaansuai Template by Ipietoon Cute Blog Design