วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

น้องแสนดีชี้แจงข่าว ตอน "ไปพูดว่าวัดรังแกชาวบ้านได้อย่างไร ต้องพูดว่าอันธพาลรังแกวัดถึงจะถูก"

เรื่องนี้นานแล้วนะครับ ทีแรกว่าจะไม่แก้ แต่มีคนขอให้ช่วยอธิบายเรื่องรูปหากินของสื่อรูปนี้เยอะมาก ที่หาว่าวัดไปรังแกชาวนา



ได้ดูรูปนี้หลายครั้ง แต่แสนดีไม่เชื่อตั้งแต่แรกนะครับ อาศัยเอะใจว่า รูป ๆ นี้ใช้กันบ่อยจัง แต่ดูยังไงก็เห็นชัด ๆ ว่าไม่ใช่การไปโจมตีชาวนา ดูแล้วเขาถูกชาวนาโจมตีซะมากกว่า ดูจังหวะการตีก็เห็นนะครับว่าใครตีใคร และอีกปืนก็มี ถ้าจะทำร้ายชาวนา จะเอาไม้สู้ไม้ทำไม เอาปืนสู้ไม้ไม่ดีกว่าเหรอ



นั่นแหละครับ ก็เลยไปสืบ ๆ จนได้ความว่า สมัยที่วัดกำลังขยายตัวเพราะคนมาเยอะขึ้น วัดก็ไปซื้อที่จากข้างวัดซึ่งเป็นที่นาเพื่อขยาย ตอนสมัยปี  พ.ศ. 2527-2532 

ซึ่งวัดได้วางหลักเกณฑ์ในการจัดที่ดินให้ชาวนาอยู่อาศัย ดังนี้


  • ตีราคาที่ดินไร่ละ 7 หมื่นบาท หมายความว่า ถ้าชาวนารายใดไม่ประสงค์จะรับเงินค่าทดแทนจำนวน 2 แสน 1 หมื่นบาทในข้อ 2 ก็จะได้รับกรรมสิทธิ์ที่ดินรวม 3 ไร่ ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากในสมัยนั้น คือวัดจ่ายให้ 2 แสน 1 หมื่นบาท ต่อผู้เช่านา 1 เส้น



  • หากชาวนารายใดต้องการที่ดินอยู่อาศัยเพียง 1 ไร่ ก็จะได้รับค่าทดแทนเป็นเงินสดอีก 1 แสน 4 หมื่นบาท


และวัดยังช่วยจ่ายค่ารื้อถอนที่พัก มากกว่าค่าเฉลี่ยที่สมัยนั้นให้เสียอีก 


ชาวบ้านสมัยนั้นมี 2 กลุ่มใหญ่ ๆ

กลุ่มแรกเป็นชาวบ้านที่จิตใจดี คุยง่าย  รับเงื่อนไข แล้วย้ายไปอย่างสบายใจ ลงตามรูปที่ให้นะครับ






กลุ่มสอง เป็นกลุ่มที่รุนแรง และต้องการที่จะเอาเพิ่ม โดยอยากได้ค่าที่เพิ่มอีก และนั่นคือปัญหา ชาวนากลุ่มที่สอง เข้ามาก่อกวน เพื่อต้องการให้วัดจ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก และได้ไปฟ้องร้อง และปล่อยข่าวมากมาย ได้เอาลังไม้มาต่อให้เป็นเพิงชั่วคราว เพื่อเอาค่ารื้อถอนบ้าน ต่าง ๆ นานา สารพัดจะเอาเปรียบนะครับ


จนท่าน โกสินทร์ เกษทอง มาเป็นนายอำเภอสมัยนั้น ก็ได้เข้ามาดูเหตุการณ์ และได้เล่าเหตุการณ์ ตามลิ้งนี้นะครับ

https://youtu.be/4FZm39kuYfk


ถึงขนาดท่านพูดว่า


 “วัดไม่ได้รังแกชาวนาหรอก 
แต่อันธพาลต่างหากมารังแกวัด”


 ท่านจะเชื่ออะไร ระหว่างนายอำเภอสมัยนั้นซึ่งเห็นกับตา กับสื่อสมัยนี้ที่ชอบบิดเบือน อ่านเรื่องราวได้ที่ด้านล่างของบทความนะครับ



เลิกเอารูปนี้มาหากินเสียทีเถอะครับ
ภาพ ๆ เดียว ที่บอกเหตุการณ์อะไรไม่ได้
และผมดูยังไง ก็เป็นชาวนาโจมตี และเขาป้องกันตัว


น้องแสนดี
28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560


.........................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง


Facebook
https://goo.gl/0M3l3x

Twitter
https://goo.gl/Pw7c0g

Line@  
https://goo.gl/xAK8Ue


สัมภาษณ์ท่านโกสินทร์ เกษทอง นายอำเภอคลองหลวงยุคนั้น
https://youtu.be/4FZm39kuYfk

เบื้องหลังการให้ร้ายวัดพระธรรมกาย
http://buddhism2559.blogspot.sg/2016/03/2527-2532.html
.......................


วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ลุงอนวัช ธนเจริญณัฐ ผู้ยอมแลกชีวิตเพียงเพื่อขอให้ยกเลิกม 44

เกิดการเสียชีวิตขึ้นจนได้นะครับ
 ในช่วงการใช้ ม 44



เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 25 ก.พ มีชายสูงอายุ ไม่ทราบชื่อ (มารู้ในภายหลังว่าชื่อ ลุงอนวัช  ธนเจริญณัฐ ) ปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังภายในซอยใกล้กับตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี 
โดยชายผู้ปีนขึ้นเสาไปได้เขียนป้ายแจ้งติดเอาไว้บนนั้นว่า ถ้าถึงเวลา 21.00 น.วันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยกเลิก ม 44 เตรียมเก็บศพได้เลย ขณะนี้ญาติโยมที่อยู่ด้านล่างกำลังเจรจาเกลี้ยกล่อม

จากนั้น ได้เขียนกระดาษแผนที่ 2 ข้อความว่า “พระสงฆ์ คนแก่ ถูกข่มเหง รังแก กลั่นแกล้งด้วยวิธีต่างๆนานา สังคมปัจจุบันคนดีอยู่ยาก”

ต่อมา ได้เขียนกระดาษแผ่นที่ 3 แปะเอาไว้บนยอดเสาเพิ่มว่า "ภายใต้ดวงนี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังไม่สงบไปช่วยชาติหน่อยครับ ทำเพื่อชาติ”

จนในที่สุด เวลา 21.00 น. พระทีมเจรจา ระบุหากลงมาจะพาไปพบสมเด็จช่วง เขาจึงยอมปีนลงจากยอดเสา แต่สุดท้ายก็กลับใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตทิ้งตัวห้อยลงมากับเสา


ผมไม่ทราบนะครับ ว่าลุงเขาคือใคร 

เพราะเช็คกับคนที่อยู่ที่วัดพระธรรมกาย แล้วไม่มีใครรู้จักลุง แล้วคนที่บอกว่าลุงเป็นศิษย์วัด ถามจริง ๆ คุณรู้ได้ไง หรือเพราะสื่อบอกเท่านั้น 

แต่ถือว่าลุงมีอุดมการณ์มาก ๆ คนหนึ่ง ที่ยอมสละชีวิตตนเองเพื่อต่อต้านอำนาจความอยุติธรรม ที่ถือกฎหมาย และลุงก็มีสัจจะด้วย
(แต่ว่ามีอีกลุงนึง บอกว่าจะผูกคอตายตั้งหลายปีก่อน แต่ป่านนี้ลุงก็ยังไม่ตาย แถมสบายด้วย อันนี้ไม่ไหวครับ สัจจะไม่มีในหมู่…. จริง ๆ ได้ในสิ่งที่ตัวต้องการแล้วก็ลืมสัญญา)

น่าเห็นใจมากนะครับ เพราะดวงจิตของคนที่คิดฆ่าตัวตายนี่คือสุด ๆ ของเขาแล้ว ซึ่งหลวงพ่อท่านขอไว้เลยนะครับ เรื่องของการฆ่าตัวตาย อย่าทำเด็ดขาด เพราะมันไม่ได้จบแค่ภพนี้ แต่ภพหน้าเราก็ยังต้องเจออีกเรื่อย ๆ 

แต่ขอคารวะในความใจเด็ดของลุงจริง ๆ นะครับ น่าเสียดายคนดี ๆ ที่มีอุดมการณ์และสัจจะแบบนี้นะครับ

แต่จากเรื่องนี้ก็มีสิ่งที่ไม่น่าเชื่อนะครับ เพราะมีการแชร์ใน facebook live ของทางช่องสื่อหลาย ๆ ช่อง มีคนกดสติกเกอร์ยิ้ม กดไลค์ เขียนข้อความที่ไม่ได้รู้สึกถึงความเสียใจอะไรเลย 


ถามจริงๆ นี่พวกคุณเป็นตัวอะไรในร่างคนกันใช่ไหมครับ ถึงยิ้ม สะใจให้กับการตายของคนอื่นได้แบบนี้ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตนะครับ แต่ใครที่กดไลค์ ยิ้ม เขียนด่าถากถาง ขอให้ประสบกับตัวเองหรือครอบครัวตัวเองบ้างนะครับ เผื่อจิตใจในความเป็นมนุษย์ยังจะพอหลงเหลือขี้นมาอีกบ้าง


มีภาพที่น่ากลัว ในสมัย 6 ตุลาคม 2519 (ผมยังไม่เกิดเลยไม่ทราบเรื่องมากนะครับ ไม่ขอลงรายละเอียดมาก แค่อยากรู้เรื่องของภาพรอยยิ้มปีศาจนี้เท่านั้น ) 
https://www.youtube.com/watch?v=sb_Zz0JzShU  


ภาพการฟาดเก้าอี้เป็นภาพที่ช่างภาพต่างประเทศ ถ่ายการทำร้ายนักศึกษาธรรมศาสตร์จนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นองเลือดเพื่อต่อต้านเผด็จการ ที่ต่อสู้กับนักศึกษา เพียงด้วยเรื่องที่เข้าใจผิดกันบางเรื่อง และที่น่ากลัว ไม่ใช่เพียงภาพการตีจนตายที่น่ากลัวนะครับ ที่น่ากลัวกว่ามากคือ คนยืนยิ้มดูที่อยูรอบ ๆ 
( https://www.youtube.com/watch?v=Ry99eDuBqgI


ซึ่งการที่พวกเขายืนยิ้มดูนั่นก็ไม่แปลกเลย เขาคิดว่าเขาทำถูกไงครับ เขาสะใจ ซึ่งจะเกิดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย ถ้าไม่มีสื่อแบ่งข้างอย่างไร้จรรยาบรรณ ที่คอยปลุกปั่น อย่างสำนักพิมพ์ดาวสยาม ที่เป็นสื่ออิงผู้มีอำนาจชัดเจน (เทียบปัจจุบัน ก็คือ ทุย เลยครับ) และก็เป็นต้นเหตุ ของการนองเลือดในครั้งนั้น 



ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นเลย 
ถ้าไม่มีการปลุกปั่น 


จากบ่างช่างยุ บิดเบือน ครั้งนั้นจากแค่เรื่องการแสดงละคร แล้วมีฉากแขวนคอ ผู้แสดงเขาก็เลือกคนตัวผอม เพราะมันแสดงได้ง่าย แต่หน้าไปคล้ายกับใครสักคน (มั้ง แต่ดูยังไงก็ไม่คล้ายนะ https://youtu.be/XN4cp-EU9iQ?t=706 )

จากจุดนี้ “สื่อเสื่อม”ในยุคนั้น ก็เอามาปั่นกระแสที่เปราะบางอยู่แล้วว่า เอาหุ่นที่เป็นรูปเหมือนคนสำคัญ มาแขวนคอ ทำให้หลายคนไม่พอใจ จนเรื่องบานปลายกระทั่งเสียเลือดเสียเนื้อมากมาย  ทั้งที่เป็นแค่การแสดงละครซึ่งไม่ได้เกี่ยวกันเลย และก็ไม่ใช่หุ่นด้วย แต่สื่อเสื่อมอย่างดาวสยามในยุคนั้นเสี้ยม บอกว่า หุ่นเหมือน และนั่นคือเป็นเหตุให้ คนในสังคมแบ่งเป็นฝ่าย ตีกัน และจะมีผู้มาจัดการให้มันสงบ แต่การจะจัดการได้ มันต้องหาความชอบธรรมในการเข้าไปจัดการก่อนไงครับ

ดาวสยาม https://goo.gl/Qt6DXw   (https://goo.gl/XYtKT6
(รายละเอียดยิบ https://goo.gl/b4xEhN )

สรุปคือ ฝ่ายที่มีอำนาจ ต้องการที่จะจัดการบางอย่าง ก็เลยอาศัยสื่อฝ่ายตัวเอง ในการกล่อมคนในสังคม ให้รู้ข้อมูลผิด ๆ ซึ่งเป็นแบบไหน ไปอ่านที่ ทุย ได้เลยครับ อะไรที่ตัวเองเชียร์ก็เชียร์เต็มที่ อะไรที่ตัวเองจะกำจัดก็นั่งเทียนยังเอา ทำยังไงก้ได้ให้คนเกลียดและคิดเหมือนตัวเอง แบบนี้ยังเรียกตัวเองว่าสื่อเนอะ แล้วพอคนในสังคมเริ่มแบ่งกันและสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองได้แล้ว หมาป่าก็จัดการกินแพะ (เรื่องนี้น่าศึกษามากครับ เพราะรู้สึกมันย้อนกลับมาอีกแล้ว)
เหตุการณ์ของยิ้มปีศาจในครั้งนั้น ที่แม้แต่ฝรั่งยังตกใจ ก็มาเจออีกในปี 2560 นี่แหละครับ ที่ลุงเขาขอให้ยกเลิก ม.44 จนกระทั่งเขาแขวนคอ แล้วมีคนสมน้ำหน้า คนหัวเราะ กับเหตุการณ์นี้ 

ถามจริง ๆ 
พวกคุณยังเป็นคนกันอยู่ใช่ไหมครับ


แถมมีคนแบบป้าวิลงโลง แทนที่จะคิดได้ กลับบอกว่า ต้องตัดไฟด้วย คนจะได้รีบกลับ https://www.facebook.com/Dabbaransi.Wirangrong/posts/10156434449953973


แล้วอย่าเอามาโบ้ยให้วัดเลยนะครับ เพราะวัดพระธรรมกาย สอนไม่ให้ไปฆ่าตัวตาย และไม่ให้ไปฆ่าผู้อื่นหลวงพ่อท่านย้ำเรื่องนี้มากครับ
บางคนก็บอกว่า ให้หลวงพ่อออกมาก็จบ

ไม่จบหรอกครับ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงเขาไม่ใช่หลวงพ่อ เขาก็แค่เอาหลวงพ่อมาอ้างเท่านั้น

พวกคุณที่บอกเป็นพุทธแท้ไล่ตัดสินผู้อื่น บางคนสมน้ำหน้าคนเสียชีวิต บางคนหัวเราะเยาะ
แต่พวกเราชาววัดกลับส่งบุญให้ลุง แม้เขาไม่ใช่ลูกศิษย์วัด แต่เพียงเพราะเขาเสียชีวิต ดูเอาเองนะครับ ว่าใครมีใจเป็นพุทธมากกว่ากัน


R.I.P ผู้สังเวยชีวิตให้ม.44 ขอลุงให้สู่สุคติ 
R.I.P ความเป็นมนุษย์ภายในใจของหลาย ๆ คน 
รอยยิ้มของปีศาจ ภายใต้หน้ากากพุทธแท้

ขอให้ลุงเป็นคนสุดท้ายในเหตุการณ์นี้
เห็นแก่ความเป็นมนุษย์ 
ยกเลิกม. 44 เถอะครับ
อย่าให้ลุงต้องตายเปล่า 
ใครช่วยเอาไปร้องเรียนสิทธิมนุษยชนหน่อยนะครับ

น้องแสนดี
26 กุมภาพันธ์ 2560

.........................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook
https://goo.gl/2iWEk5

twitter 
https://goo.gl/ZoT1ij

line@ 
https://goo.gl/ZbpKrd

#ธรรมกาย
#ไม่เอา
#ม44
#RIPa


.......................

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ถ้าบริสุทธิ์ใจ จะปิดตาประชาชนทำไม ?


ท่านจะปิดหูปิดตาประชาชนทำไม 
ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุไปไหม
หรือไม่แน่จริงที่จะให้คนรู้ความจริงด้วยการปิดหูปิดตาเขา
ทั้งที่เขาก็ไม่มีอะไรสู้ท่านได้

ช่วยกันโทรไปร้องเรียนนะครับ
นี่คือสิทธิพื้นฐานของเรา
เราจ่ายค่าโทรศัพท์ เรามีสิทธิ์
และเราต้องรักษาสิทธิ์ของเรา

AIS 1175
02 299 5000

Dtac 1678
02 202 7000 

True 1331
02 900 9000

ค่ายไหนไม่เสถียร ย้ายค่ายแน่นอนครับ
.......................


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

น้องแสนดีขอชี้แจงความสงสัยเรื่องคดีและข้อสงสัยต่าง ๆ update 22/2/60

น้องแสนดีขอชี้แจงความสงสัย
เรื่องคดีวัดพระธรรมกาย
และข้อสงสัยต่าง ๆ update 22/2/60



ขอรวมให้อีกทีนะครับ ให้อ่านง่ายขึ้น
ตอนนี้ก็สู้กันสุดๆ นะครับ
ที่สู้มากคือในใจเราเอง
เขาไม่รู้หรอกว่าเรายอมแลกทุกอย่างขนาดไหน
และพวกเขานั่นแหละจะพ่ายแพ้ในที่สุด
ทั้งชาตินี้ชาติหน้า

เรารู้ว่าท่านต้องการอะไร
เรารู้ว่าท่านทำทั้งหมดเพื่ออะไร
เรารู้เจตนาของท่าน
จากท่าทีของท่าน ที่หักหลังเรามา

เราไม่เชื่อใจท่าน
เพราะท่านทำให้เราไม่เชื่อใจ
ยัดข้อหามาให้ทำไม
ทำไมไม่มาแจ้งข้อกล่าวหาในวัดตั้งแต่แรก
โกหกทำไมครับว่ามาไม่ได้ 
เป็นนักกฎหมาย แต่หลอกชาวบ้านเรื่องกฎหมายได้ไง
ทั้งที่ท่านก็รู้ว่าหลวงพ่อไม่ออกจากวัด ท่านอาพาธ
และเป็นถึงพระราชคณะ ก็ยังจะให้ท่านออกไป

บอกจะค้นเสร็จแล้วกลับ
ขอความร่วมมือ เราก็ให้แล้ว
แล้วท่านก็บุกอีกโดยให้คนออก
ถ้าเหลือแต่พวกท่าน 
ผมไม่อยากจะคิดเลย ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

รุ่งเช้าอาจจะมีคดีอีกเป็นหมื่น
ซึ่งเป็นคดียัด


พวกท่านสามารถทำให้มันจบง่าย ๆ 
ก็ได้แต่แรกแล้ว แต่ท่านไม่ทำ
ท่านต้องการอะไรกันแน่
อย่เอากฎหมายมาอ้างเลยครับ
เรารู้ดีว่าวสิ่งที่อยู่ในความคิดท่านคืออะไร

ถ้ามันแลกกับวิบากกรรมที่ท่านจะได้รับอีกทุก ๆ ชาติก็เอา
พวกท่านได้อย่างมากก็ไม่กี่ล้าน
แต่มันจะเป็นหายนะของพวกท่านในทุก ๆ ชาตินะครับ

คิดให้ดี
แม้ตอนนี้ท่านมีอำนาจ
แต่ไม่มีอำนาจอะไรเกินอำนาจกรรมแล้วครับ
สักวันมันตามท่านแน่นอน

น้องแสนดี
22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

















.........................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง


Line@
https://goo.gl/39VUZN

Twitter  

แผ่น 1 https://goo.gl/1vfuku

แผ่น 2 https://goo.gl/Sr732p

แผ่น 3 https://goo.gl/cknsw6

แผ่น 4 https://goo.gl/Ov2wpa

แผ่น 5 https://goo.gl/85cbpg

แผ่น 6 https://goo.gl/K8oOls

แผ่น 7 https://goo.gl/PC5i6Z

แผ่น 8 https://goo.gl/6lBlGF

แผ่น 9 https://goo.gl/bGlIQ8

แผ่น 10 https://goo.gl/QGjpxP

แผ่น 11 https://goo.gl/UtLHV9

แผ่น 12 https://goo.gl/E3MtyT

แผ่น 13 https://goo.gl/jm2q8z

แผ่น 14 https://goo.gl/mK4CS0

แผ่น 15 https://goo.gl/vbe988

เลิกม 44 https://goo.gl/XS3ycj

แอดไลน์แสนดีได้ทางลิ้งนี้นะครับ

https://goo.gl/XcZZTi

.......................

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

น้องแสนดีชี้แจงข่าว ตอน Hyperbaric Chamber ไม่ใช่เครื่อง baby face และไม่ใช่ 15 ล้าน

            ช่วงนี้ DSI เข้ามาที่วัดเยอะนะครับ แสนดีก็ต้องอยู่คอยต้อนรับเขาและอยู่สวดมนต์ เลยไม่มีเวลาอัพมากนะครับ ข่าวเยอะจริงๆ แต่อธิบายครับถ้ามีเวลา


เห็นมีดราม่าเรื่องเครื่อง 
Hyperbaric Chamber 



โดยมีเพจของคนที่ชอบมั่วข้อมูล ออกมาบอกว่า เครื่องนี้เป็นเครื่องเบบี้เฟส และราคา 15 ล้าน

           เลยไม่รู้เจ๊ลงโลงเอาข้อมูลมั่วๆ แบบนี้มาจากไหนนะครับ กระจายกันเต็มเลย แล้วก็สำนักข่าวกากๆ อย่างทุย ก็ชอบเหลือเกินครับ ข่าวเสี้ยมที่ไม่จริงขอให้ลงไปก่อนให้ได้เป็นข่าวเนี่ย


มาดูเครื่อง Hyperbaric Chamber กันนะครับว่าคืออะไร
Hyperbaric Chamber  เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ประยุกต์มาจากเวชศาสตร์ใต้น้ำมีใช้กันมานานแล้วทั่วไป ซึ่งจะมีประโยชน์กับการรักษาโรคหลายชนิดนะครับ เช่น 
รักษาการติดเชื้อที่แผล และการติดเชื้อที่ทำให้เกิดเนื้อตาย
รักษาแผลที่มีปัญหาในการหายของแผล เช่น แผลเบาหวาน
รักษาแผลผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อ
รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก

ทีนี้ที่เรารู้กัน คือหลวงพ่อเป็น DVT เรื้อรังขั้นรุนแรง และเป็นเบาหวานด้วย ทำให้ผ่าตัดไม่ได้ ก็ได้เครื่องนี้ช่วยไม่ให้แผลมันลามน่ะครับ
ยิ่งชัดเจนเลยนะครับ ว่าหลวงพ่อป่วยจริง

เครื่องทำ baby face จริงๆไม่มีหรอก เป็นการเรียกกระบวน anti aging ซึ่งมีหลากหลายวิธีมากกว่านี้ครับ
แต่เป้าหมายหลักคือการรักษาโรคที่เกิดขึ้นจากแผลตายต่างหาก

จากการไปค้นมา เครื่องนี้ราคาแค่ 74900 เหรียญนะครับ ก็ประมาณ 2.5 ล้านบาท https://goo.gl/FPs6MF
ไม่รู้เจ๊ไปซื้อที่ไหนนะครับ ราคา 15 ล้านบาท เดี๋ยวผมสั่งมาขายให้เจ๊สักเครื่องละ 10 ล้านก็ได้นะครับ 5555
และรุ่น Fortius 420 เป็นรุ่นเก่าที่เป็น analog มันบันทึกเวลาเปิดปิดไม่ได้มั้งครับ 555

ข้อมูล
การบำบัดด้วยออกซิเจนความกดดันสูง
https://goo.gl/IlDgUU

ตัวอย่างร้านขาย Fortius 420 Hyperbaric Oxygen Chamber 
http://www.rehabmart.com/product/fortius-420-hyperbaric-oxygen-chamber-34342.html

Why Would Anybody Have a Hyperbaric Chamber in Their Home or Doctor's Office?
https://goo.gl/MVhAIC

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเพจ Drama Addict ด้วยนะครับ ที่ช่วยลงข้อมูลที่ถูกต้อง
https://goo.gl/yPGqiC

เพจเจ๊ 
https://goo.gl/2C1cGH


เพจทุย
https://goo.gl/WlNzEa
…………..
Hyperbaric Chamber  
ไม่ใช่เครื่อง baby face
และไม่ใช่  15 ล้าน


.........................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง


Twitter
https://goo.gl/wCUQVD

Line@ 
https://goo.gl/yLtLj4

แอดไลน์แสนดีได้ทางลิ้งนี้นะครับ
https://goo.gl/XcZZTi

.......................

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รวมรายชื่อสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์


           รวมรายชื่อสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และ Timeline ที่สำคัญของพระพุทธศาสนาในไทยมาให้นะครับ (เท่าที่ได้นะครับ)



(อันนี้เป็นอันที่ Final ครับ เพราะก่อนหน้านี้เห็นมีออกมาอันนึงแต่เป็นอันที่ยังทำไม่เสร็จครับ ใครมีก็ลบทิ้งไปเลยครับ )

ตอนนี้เราได้มีสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 กันแล้วนะครับ 

ก็ขอกราบถวายมุทิตากับท่านด้วยนะครับ 
ก็อยากจะอ่านอยากจะรู้ประวัติท่านเพื่อเอามาเขียน
ก็อยากจะรู้ว่าในประเทศเราตั้งแต่องค์ที่ 1 จนถึงองค์ปัจจุบัน
ก็อ่านแล้วก็ค้นคว้าไปเรื่อย ๆ และก็จำไม่ได้เยอะมาก เลยต้องทำสรุปออกมา 

          **** ที่ทำเพราะความอยากรู้ส่วนตัวนะครับ ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น เพราะตัวเองก็ไม่รู้อีกเยอะเหมือนกัน อยากดู Timeline ที่สำคัญ ๆ ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นช่วงไหนบ้าง และเรื่องของการแยกนิกายนะครับ


โดยเอามาเทียบกับช่วงเวลาและรัชกาลนะครับ ว่าพระสังฆราชพระองค์ไหน อยู่ในสมัยไหนบ้างครับ 

           สังฆราช ความหมายตามรากศัพท์ แปลว่า “ราชาของสงฆ์”
มีชื่อตำแหน่งอย่างเต็มว่า “สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” 

เป็นตำแหน่งสูงสุดในฝ่ายพุทธจักรในประเทศไทย  เป็นพระมหาเถระผู้เป็นใหญ่สูงสุดในสังฆมณฑลไทย 

ประเภทของการเรียกพระนามสมเด็จพระสังฆราชมีคำเรียก 3 อย่าง คือ 

1. ถ้าเป็นเชื้อพระวงศ์จะใช้เป็น “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า” และมีพระนามโดยเฉพาะ เช่น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
2. หากเป็นพระบรมราชวงศ์ชั้นสูงใช้ว่า “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า” ทรงเศวตฉัตร 5 ชั้น  
3. ถ้ามาจากสามัญชนจะใช้ว่า “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ” แล้ววงเล็บชื่อเดิมไว้ตอนท้าย ทรงเศวตฉัตร 3 ชั้น  

>>> ลำดับสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และ Timeline เวลาที่สำคัญ

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 1
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช ศรี) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2337 : 12 ปี) 
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 1)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 2
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช ศุข) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2337 -  พ.ศ. 2359 : 22 ปี)
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 1และ 2)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 3
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช มี) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2359 - พ.ศ. 2362 : 3 ปี)
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 2)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 4
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช สุก ญาณสังวร) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2363 - 4 กันยายน พ.ศ. 2365 : 2 ปี)
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 2)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 5
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช ด่อน) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2365 - 23 กันยายน พ.ศ. 2385 : 20 ปี) 
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 2 และ 3)

>>>> หลังจากนี้ แบ่งเป็น ธรรมยุติกนิกาย และมหานิกายแล้วนะครับ <<<<<
เป็นคณะสงฆ์ที่พระวชิรญาณเถระ ร.4) ทรงตั้งขึ้นระหว่างที่ทรงผนวช

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 6
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช นาค) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2386 - พ.ศ. 2392 : 6 ปี)
วัดราชบูรณะราชวรวิหาร มหานิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 3)

>>> ตำแหน่งพระสังฆราชว่าง 2 ปี
เป็นที่น่าศึกษาต่ออย่างมาก ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 7
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส (พระองค์เจ้าวาสุกรี สุวณฺณรงฺสี) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ สิงหาคม พ.ศ. 2394 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2396 : 2 ปี)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร มหานิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 4)


>>> ระหว่างนี้ตำแหน่งพระสังฆราชว่าง 37 ปี
เป็นที่น่าศึกษาต่ออย่างมาก ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือรออะไรอยู่จึงต้องว่างนานถึง 37 ปี


สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 8
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์ ปญฺญาอคฺโค) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2434 - 28 กันยายน พ.ศ. 2435 : 10 เดือน) 
วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 5)
เป็นหนึ่งในสิบพระเถระผู้เป็นต้นวงศ์ธรรมยุต และเป็นพระสังฆราชองค์แรกที่เป็นธรรมยุติกนิกาย

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 9
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สา ปุสฺสเทโว)  
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 - 11 มกราคม พ.ศ. 2443 : 6 ปี)
วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 5)

มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ขึ้น เป็นครั้งแรกในประเทศไทย (พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ร.ศ. 121 ) 
(การปกครองคณะสงฆ์สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๕-๗ https://goo.gl/1zk3Ih

มีสาระสำคัญคือได้ยกสถานะคณะธรรมยุติ ให้เป็นนิกายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 
(ธรรมยุติกนิกาย https://goo.gl/zYco9B)



>>> ระหว่างนี้ตำแหน่งพระสังฆราชว่าง 11 ปี
เป็นที่น่าศึกษาต่ออย่างมาก ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือรออะไรอยู่จึงต้องว่างนานถึง 11 ปี


สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ มนุสฺสนาโค) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2453  -  2 สิงหาคม พ.ศ. 2464 : 11 ปี) 
วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 6 )

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 11
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ (หม่อมเจ้าภุชงค์ สิริวฑฺฒโน ชมพูนุท) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2464 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2480 : 16 ปี)
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 6 -  8)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 12
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว พงษ์ปาละ) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 : 6 ปี)
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร  มหานิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 8)

เปลี่ยนชื่อจากสยามเป็นประเทศไทย พ.ศ. 2482
มีพ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ. 2484 ความสำคัญในพระราชบัญญัติก็คือ ได้จัดการปกครองคณะสงฆ์ให้อนุโลมระบอบการปกครองบ้านเมืองเท่าที่ไม่ขัดกับพระธรรมวินัย”
และพยายามรวม 2 นิกายให้เข้าเป็นอันเดียวกัน (การปกครองคณะสงฆ์สมัยรัตนโกสินทร์ในรัชกาลที่ ๘ https://goo.gl/cWVfd1) พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนา สมเด็จพระสังฆราช 

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 13
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น สุจิตฺโต นพวงศ์) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2488 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2501 : 14 ปี)
วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 8 - 9)

>>> ระหว่างนี้ตำแหน่งพระสังฆราชว่าง 2 ปี
เป็นที่น่าศึกษาต่ออย่างมาก ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือรออะไรอยู่จึงต้องว่างนานถึง 2 ปี

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 14
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ เกตุทัต) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2505 : 2 ปี)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร  มหานิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 9)

พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ. 2505
(รัฐบาลในสมัยนั้น ซึ่งมีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี)
ผลจากพ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2484 ที่พยายามรวมนิกาย ไม่เป็นผลสำเร็จ (https://goo.gl/cWVfd1
ทำให้ต้องออก พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2505 สาระสำคัญคือ ยกเลิกระบบประธานสังฆสภา สังฆนายก และประธานคณะวินัยธร อำนาจหน้าที่ของตำแหน่งทั้งสามถูกรวมกันเข้าและมอบให้ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม (https://goo.gl/vOEvo4)
(กรณีพระพิมลธรรม https://goo.gl/jUp3Kz )

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 15
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย ช้างโสภา) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 - 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2508 : 2 ปี) 
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มหานิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 9)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 16
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี สิริสม) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2514 : 7 ปี)  
วัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 9)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ สุขเจริญ) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 - 7 ธันวาคม พ.ศ. 2516 : 1 ปี) 
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร มหานิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 9)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่  18 
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน นิลประภา) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2517 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2531 : 14 ปี)  
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร  (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 9)

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน คชวัตร) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2532 - 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556  : 24 ปี)  
วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร  (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 9)
ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่มีพระชนมายุยาวนานที่สุด และดำรงสมณศักดิ์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
โดยราชทินนามดังกล่าวนับเป็นราชทินนามพิเศษ

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ (https://goo.gl/rDHijA)
สาระสำคัญคือ มาตรา 7  ในกรณีที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช


>>> ระหว่างนี้ตำแหน่งพระสังฆราชว่าง 3 ปี
(ผู้รักษาการแทนคือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ))
เป็นที่น่าศึกษาต่ออย่างมาก ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือรออะไรอยู่จึงต้องว่างนานถึง 3 ปี

พ.ร.บ.สงฆ์ 2560 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. สงฆ์ 2505)
สาระสำคัญคือ แก้มาตรา 7 ให้เป็นเหมือน พ.ร.บ. สงฆ์ 2505

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร ประสัตถพงศ์) 
ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 - ปัจจุบัน 
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (ธรรมยุติกนิกาย)
(เป็นสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัชกาลที่ 10)


สรุปคือถ้านับยุคก่อนจะแยกธรรมยุติกนิกาย(ในปี พ.ศ.2379) 
ในช่วงระหว่างพ.ศ. 2325 - 2385
มีสมเด็จพระสังฆราช  5 รูป 
รวมระยะเวลาดำรงตำแหน่งทั้งหมด 59 ปี 

และหลังจากนั้น (พ.ศ. 2385 - 2560)
นับตั้งแต่ที่แยกออกมาเป็นธรรมยุติกนิกายกับมหานิกาย
ก็จะเป็น มหานิกายมีพระสังฆราช 6 รูป รวม 19 ปี
และธรรมยุติกนิกายมีพระสังฆราช 9 รูป รวม 93 ปี นะครับ
เอาไว้เป็นข้อมูลความรู้นะครับ 


#น้องแสนดี
15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

............

อ้างอิงที่มา Wikipedia)

ราชวงศ์จักรี  
https://goo.gl/3wV0SG

มหาเถรสมาคม 
https://goo.gl/YMo0eD

รายนามสมเด็จพระสังฆราช แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
https://goo.gl/i1oxFM

มหานิกาย
https://goo.gl/aCqWmS

ธรรมยุติกนิกาย
https://goo.gl/zYco9B

กำเนิดธรรมยุติกนิกาย (https://goo.gl/HP7Hbv)

ปกิณกะสาระ..เกี่ยวกับสมเด็จพระสังฆราช
https://goo.gl/95SBPF

การปกครองคณะสงฆ์สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ – ๔ https://goo.gl/UfxYmM

การปกครองคณะสงฆ์สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๕-๗ https://goo.gl/CYaDJG

การปกครองคณะสงฆ์สมัยรัตนโกสินทร์ในรัชกาลที่ ๘ https://goo.gl/cWVfd1

การปกครองคณะสงฆ์ในปัจจุบัน https://goo.gl/vOEvo4

.........................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง


Twitter 
https://goo.gl/crPw5V

Line@
https://goo.gl/wgdiqH

แอดไลน์แสนดีได้ทางลิ้งนี้นะครับ
https://goo.gl/XcZZTi

.......................

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การันตีได้ว่าพระลิขิตปลอม มาดูกันชัดๆ

วันก่อนมีคนเอาเอกสารนี้ 
มายืนยันพระลิขิต ว่าเป็นตัวจริง




น้องแสนดีเห็นก็ขำครับ 
เอาพระลิขิตฉบับจริง 
ที่ไม่ใช่ตัวก๊อบปี้มาก็จบแล้ว 
ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากทำไม 


     เลยเอาเอกสารรับรอง มาให้ดูกันชัดๆดีกว่าครับ และข้อมูลเพิ่มเติม น้องแสนดีก๊อบมาเลยนะครับ เพราะไม่อยากตัดรายละเอียด

     เรื่องนี้ถูกนำมาเปิดประเด็นว่าหลวงพ่อธัมมชโยควรจะต้องอาบัติปาราชิกไปแล้วตั้งแต่ปี 2542 โดยอ้างถึงเอกสารพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นคำถามว่า เอกสารดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร มีใครหรือขบวนการใดๆทำให้เกิดขึ้นมาหรือไม่

     เพราะมีประเด็นเรื่องการใช้ตัวเลขอารบิค แทนที่จะเป็นตัวเลขไทย ซึ่งปกติพระลิขิตตลอดเวลาที่ผ่านมา จะเป็นเลขไทยเท่านั้น แต่เอกสารดังกล่าวกลับมีตัวเลขอารบิคปนอยู่มั่วไปหมด หนำซ้ำขนาดและรูปแบบตัวหนังสือที่ดูแตกต่างกัน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่มีการวงเล็บ วันเดือนปี ที่เป็นตัวเลขอารบิคนั้น แตกต่างจากตัวอักษรส่วนใหญ่ในพระลิขิตอย่างชัดเจน

    จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสะเทือนใจ เพราะล่วงเลยไปถึงขั้นว่า มีการปลอมพระลิขิตเกิดขึ้นหรือไม่… 

     ซึ่ง บางกอก ทูเดย์มองดูปรากฏการณ์นี้ด้วยความวิตกกังวลและห่วงใยในพระพุทธศาสนาที่สำคัญห่วงใยไปถึงการก้าวล่วงพระเกียรติของสมเด็จพระสังฆราชผู้อยู่ในใจของพุทธศาสนิกชนไทยทุกคน

     เพียงเพราะต้องการเอาชนะกันของใครบางคนที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้มีเอกสารเกี่ยวกับพระลิขิตว่อนไปหมด และทำให้เกิดการเปิดหลักฐานว่า จริงๆแล้วมีการปลอมพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชเกิดขึ้นจริง มีการอ้างหลักฐานเรื่องการปลอมพระลิขิต ปลดนายบัณฑูร ล่ำซำ ผู้จัดการและประธานมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ จากตำแหน่ง ว่าได้มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้สืบสวนในทางลับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนในที่สุดวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 กองพิสูจน์หลักฐานได้ออกรายงานที่ 1001/2545 ลงความเห็นว่า ลายเซ็นของสมเด็จพระสังฆราช ในเอกสารทั้ง 6 รายการ เป็นลายเซ็นปลอม และได้มีการดำเนินคดีกับผู้รับใช้ใกล้ชิดในวัดบวรนิเวศหลายคน ในข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม” (เอกสาร1)

     แล้วก็เป็นอย่างที่ห่วงจริงๆ เพราะเมื่อมีการตั้งข้อสงสัยว่าเอกสารพระลิขิตมีใครทำขึ้นมาหรือไม่ ก็เกิดมีเอกสารมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 16/2542 ออกมาอีกฉบับ เพื่อมุ่งยืนยันว่าพระลิขิตนั้นเป็นพระลิขิตจริง มีการอ้างถึงกรณีเอกสารวันที่ 26 เมษายน 2542 ด้วย ดังกล่าว (เอกสาร2)

    ปัญหาก็คือเอกสารนี้ก็ถูกตั้งคำถามถึงที่มาที่ไปอีกเช่นกัน เพราะยังคงมีประเด็นเดิมคือ มีตัวเลขอารบิคปนมา ในขณะที่การกรอกตัวเลขมติ ใช้เลขไทย หรือแม้แต่การลงลายมือชื่อของผู้ลงนามในเอกสารก็ยังใช้เลขไทยว่า ๒๐ พ.ค.๔๒ ใต้ชื่อของนายประยูร รักยิ้ม

     แถมตัวอักษรที่พิมพ์ชื่อนายประยูรก็คนละขนาดอีกแล้ว ตำแหน่งที่ควรจะพิมพ์ให้ชัดเจนว่าตำแหน่งอะไร ก็กลับใช้ลายมือเขียนเอาเอง ใต้ตัวพิมพ์ชื่อที่เอียงๆอย่างเห็นได้ชัด

     ทำให้เกิดประเด็นสืบค้นกันว่าแล้ว “นายประยูร รักยิ้ม” ผู้นี้เป็นใคร? ถึงได้มาเป็นผู้ลงนามในเอกสารสำคัญเช่นนี้

     ผลจากการสืบค้น เอกสารจากมติมหาเถรสมาคมช่วงปี 2542 ไม่สามารถที่จะค้นได้ว่านายประยูร ทำหน้าที่อะไร แต่มาพบในเอกสารมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 20/2545 เรื่องการขออนุมัติจ้างลูกจ้างชั่วคราวเป็นรายปี โดยอ้างมติเมื่อ วันที่ 20 กันยายน 2544 ที่ให้กรมศาสนาจ้างนายประยูร รักยิ้ม เป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นรายปี ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม เงินเดือนเดือนละ 10,000 บาท โดยจ้างตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2545 ซึ่งเอกสารดังกล่าวอ้างว่าเพื่อประโยชน์ในงาน จึงสมควรอนุมัติให้จ้างต่ออีก 1 ปี คือตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2545 ไปถึง 30 กันยายน 2546 โดยเพิ่มเงินเดือนเป็น 24,170 บาท เอกสารลงนามโดย นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมศาสนา (เอกสาร 3)

     และเอกสารมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 21/2546 ก็มีการอนุมัติการจ้างนายประยูร รักยิ้ม เป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นรายปี ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม ต่ออีก 1 ปี คือตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 ถึง 30 กันยายน 2547 เอกสารลงนามโดย นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม (เอกสาร 4)

     ถ้านับตามหลักฐานที่ปรากฏ นายประยูรเข้ามาทำหน้าที่ในปี 2544 แล้วไฉนจึงสามารถลงนามในเอกสารปี 2542 ได้ และที่สำคัญตำแหน่งที่ปรึกษาที่เป็นลูกจ้างรายปี เงินเดือนแค่ 10,000 บาทในปี 2544 สามารถมาลงนามในเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเอกสารพระลิขิตได้หรือ?




     การันตี? ใช้ของปลอม การันตี นี่ไม่ปลอม
จะเมามอม ผู้คน ไปถึงไหน 
เอาของปลอม มารองรับ กันทำไม 
เพื่ออะไร ไร้ค่า อยู่เช่นเดิม

     จุดสังเกต หลายแห่ง ก็ดูแปลก 
ทั้งไทยแยก อารบิก สลับเพิ่ม
อีกตัวฟอนท์ ก็เฉเฉียง เอียงกว่าเดิม 
ถามเพิ่มเติม นี่ลายเซ็น ของผู้ใด ?

น้องแสนดี ขี้สงสัย
.........................
Cr. น้องแสนดี
ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook
https://goo.gl/ptdUIb


.......................

 

blog Nongsaandee by Nongsaansuai Template by Ipietoon Cute Blog Design