อ้างตรวจสอบเงินวัด ฝากเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยครับ

แค่วันเดียวที่ออกรัฐธรรมนูญ 2560 ลุงภัยจะไปยื่นขอให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินวัด อ้างว่าขอลองใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก่อนเลยว่าได้ผลจริงไหม 

ลุงอยากรู้บัญชีของวัดขนาดนี้เลยเหรอครับ ลุงเกี่ยวข้องอะไรด้วยหรือเปล่าครับ (ชอบยุ่งเรื่องอื่นที่ตัวเองไม่เกี่ยวนี่ เขาเรียกว่าอะไรน๊าาาาา ??????)

แล้วลุงก็อ้างว่า มหาเถรสมาคมได้มีมติที่ 40/2558 ให้วัดทุกแห่งจัดทำรายงานบัญชีทางการเงินและทรัพย์สินของแต่ละวัด โดยให้จัดส่งมาให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเก็บรักษาไว้ https://www.dailynews.co.th/politics/566758

แต่ลุงภัยครับ มติ 40/2558 ผมหาไม่เจอนะครับ ถ้ามีก็เอามาโชว์หน่อยครับ ว่ามันว่าอย่างไร

ซึ่งลุงก็ฉลาดนะครับ กะว่าจะให้วัดเอาบัญชีวัดทั่วประเทศไปไว้ที่ พ.ศ. (ตอนนี้ ผอ.พ.ศ. ก็เป็นคนของ DSI) 

แล้วก็ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560  ( note ไว้ด้านล่างนะครับ)

มาตรา 25 วรรคสอง  (เพื่ออ้างสิทธิ์ของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ)
มาตรา 45  (บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมือง (เกี่ยวอะไรกัน))

มาตรา 59 (รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานของรัฐ)

คือลุงภัยแกเล็งข้อ 59 นี้แหละครับ กะว่าของที่ฝากรัฐไว้ แกต้องดูได้เซ่ ( นิสัยเผือก คือ อยากรู้เรื่องคนอื่น แต่คนอื่นห้ามรู้เรื่องตัวเอง )
แต่ในมาตรานี้ เขาหมายถึงข้อมูลที่เอามาเปิดเผย ต้องเป็นข้อมูลของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเปล่าครับ

ถ้าเอาข้อมูลของเอกชนที่ไปฝากรัฐ อย่างนี้ผมขอดูข้อมูลบัญชีของคนทั่วไปที่ฝากธนาคารได้ไหมล่ะ เอาสิ ผมจะขอดูของลุงก่อนเลย 
(เห็นว่าปี 57 ลุงมีทรัพย์สินกว่า 44 ล้านแน่ะ ตอนนี้น่าจะมีเยอะขึ้นอีกนะ) แล้วต้องเอามาเปิดเผยทั้งหมดด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปดู โดยใช้สิทธิ์ตามมาตรา 25 และ 59

แล้วกับศาสนาอื่น ๆ ไปลุงภัยอยากรู้อยากเห็นแบบนี้บ้างไหมครับ  หรือไม่กล้า

เอางี้ครับลุง อันที่ลุงน่าไปตามนะครับ ในฐานะที่สนิทกับปู่อินดี้ และที่ลุงเคยเป็นที่ปรึกษา สตง. โดยตรง

จำได้ไหมครับ ปูทุวิทย์อินดี้ เคยไปยื่นหนังสือต่อซึ่งนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง. )
ขอให้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนทูลถวายสมเด็จพระสังฆราชเพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ปีละ 23 ล้านบาท 
ขณะที่ สตง.คาดใช้เวลาตรวจสอบ 1 เดือน  (24 มีนาคม 2559) แต่นี่มันเลยมาปีกว่าแล้วนะครับ
https://www.thaich8.com/news_detail/3407

เนื่องจากมีความไม่โปร่งใสว่า สมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนท่านประชวรมาหลายปี แต่มีคนเบิกเงินที่รัฐจ่ายให้ท่าน ปีละ 23 ล้าน ทุกปี
ทีแรกปู่ทุวิทย์อินดี้ไปฟ้อง เพราะจะให้เล่นงานสมเด็จช่วง (คิดว่าสมเด็จช่วงเอาไป) 

แต่ความจริงไม่ใช่ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนไม่ได้เบิกไปเลย เป็นคนอื่นเบิกไป แล้วเบิกต่อเนื่องมาหลายปี 

แล้วเรื่องนี้ก็เงียบไปกับอากาศอย่างรวดเร็ว เพราะท่านประชวรไปประทับที่รพ.จุฬา ตั้งแต่ปี 2545 เงินที่เบิกมาน่าจะเยอะอยู่ รวมเป็นเงินน่าจะเกิน 200-300 ล้าน 

(ไม่รู้ที่เงียบเพราะอะไร หรือเพราะลุงเป็นที่ปรึกษา สตง. น๊าาาา)
เพราะถ้าเป็นสมเด็จช่วง เรื่องนี้ต้องดังสุด ๆ แน่ แต่ที่เงียบไปเข้าใจได้ง่ายครับ เพราะเจอ "ตอ" แถว ๆ นั้นแหละ ลองไปถามที่ห้องกระจกวัดบวรดูนะครับ

เรื่องนี้ปู่อินดี้ก็อย่าเงียบสิครับ ใจคอไม่ดีเลย ^^

ลุงภัยตามต่อเลยครับ แน่จริงเอาให้สุด ทีแรกว่าเดือนเดียวเสร็จ นี่ปีกว่าแล้วเงียบสนิท ไหนว่าทำตามขั้นตอนกฎหมายไง

เกรงใจเจ้าปู่อินดี้หน่อยสิ เดี๋ยวท่านฟ้อง 157 นะครับ ยิ่งขี้ฟ้องอยู่ ถ้าปู่ไม่ฟ้อง เดี๋ยวมีคนฟ้องขึ้นมาจะยุ่งนะ 
(ฝากใครไปฟ้องหน่อยก็ได้ครับ พวกแก๊งคนดีทำงานช้ากับพวกตัวเอง แต่เก่งกับคนอื่น)

หรือว่างานมันยากไปครับ การไปอยากรู้อยากเห็นเรื่องบัญชีวัดมันง่ายกว่า เพราะชอบบบบ
ผมว่าเอาของลุงมาเปิดเผยก่อนเลย รวมถึงพวกกลุ่มแก๊งคนดีศรีปฏิรูป แล้วพวกที่จะขอตรวจสอบด้วยครับ แน่จริงต้องเริ่มจากตัวเองสิ
แล้วกล้า ๆ หน่อย ไปอยากรู้อยากเห็นของศาสนาอื่นมั่งนะครับ หรือเก่งแต่กับพระน๊อออ

น้องแสนดี
8 เมษายน พ.ศ. 2560


......................................
ฝากตรวจสอบเงินของพระสังฆราชที่มีคนเบิกไป แล้วเรื่องเงียบ และแน่จริงเปิดเผยของตัวเอง แก๊งคนดีศรีปฏิรูป และศาสนาอื่น ๆ ทั้งหมดด้วยนะครับ

.........................

Cr. น้องแสนดี

ติดตามน้องแสนดีได้ทาง

Facebook
https://goo.gl/zh84rV

twitter 
https://goo.gl/sR926m

line 
https://goo.gl/PpwRhn

....

ที่มา'
ไพบูลย์'ลองของ'รธน.ใหม่' ขอดูบัญชีการเงินวัดทั่วปท
https://www.dailynews.co.th/politics/566758

พระพุทธะอิสระ ยื่นหนังสือถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนทูลถวายสมเด็จพระสังฆราชเพื่อปฏิบัติศาสนกิจ 
ปีละ 23 ล้านบาท
https://www.thaich8.com/news_detail/3407

รัฐธรรมนูญ 2560
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF

.............................................
มาตรา ๒๕ สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย นอกจากที่บัญญัติคุ้มครองไว้เป็นการเฉพาะ ในรัฐธรรมนูญแล้ว การใดที่มิได้ห้ามหรือจํากัดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือในกฎหมายอื่น บุคคลย่อมมีสิทธิ และเสรีภาพที่จะทําการนั้นได้และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ตราบเท่าที่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพ

เช่นว่านั้นไม่กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน และไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น

สิทธิหรือเสรีภาพใดที่รัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ แม้ยังไม่มีการตรากฎหมายนั้นขึ้นใช้บังคับ บุคคลหรือชุมชนย่อมสามารถ
ใช้สิทธิหรือเสรีภาพนั้นได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้

บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพหรือจากการกระทําความผิดอาญาของบุคคลอื่น ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาหรือช่วยเหลือจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ


มาตรา ๔๕ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมืองตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่กฎหมายบัญญัติ 
กฎหมายตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งต้องกําหนดให้เป็นไปโดยเปิดเผยและตรวจสอบได้ เปิดโอกาสให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการกําหนดนโยบาย

และการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และกําหนดมาตรการให้สามารถดําเนินการโดยอิสระไม่ถูกครอบงําหรือชี้นํา โดยบุคคลซึ่งมิได้เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองนั้น รวมทั้งมาตรการกํากับดูแลมิให้สมาชิกของพรรคการเมือง กระทําการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

มาตรา ๕๙ รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานของรัฐ ที่มิใช่ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐหรือเป็นความลับของทางราชการตามที่กฎหมายบัญญัติ และต้องจัดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารดังกล่าวได้โดยสะดวก

.......................

 คลิ๊ก   ย้อนกลับไปที่สารบัญ